กลุ่มชายฉกรรจ์อาวุธครบมือ บุกตัดไม้พะยูง100ปีในวัด ไม่กลัวพระ-ชาวบ้าน

กลุ่มชายฉกรรจ์อาวุธครบมือ บุกตัดไม้พะยูง100ปีในวัด ไม่กลัวพระ-ชาวบ้าน

ก่อเหตุอุกอาจเย้ยกฎหมาย กลุ่มชายฉกรรจ์15คน สวมอีโม่งพร้อมอาวุธครบมือ บุกตัดไม้พะยูงอายุ100ปีในวัด ต่อหน้าพระ-ชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงาน (3พ.ย.61) ได้เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 15 คน สวมหมวกอีโม่งปิดบังใบหน้า ขับรถยนต์กระบะ2คัน ยี่ห้ออีซุซุ สีบรอนด์เทา ตอนเดียว และยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาพร้อมเลื่อยยนต์และพกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดครบมือ บุกเข้ามาภายในวัดบ้านหนองมะเขือ ม.14 ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ ช่วงเวลาประมาณตี 4 ของวันที่2พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะลงมือใช้เลื่อยยนต์ตัดโค่นต้นพะยูงเก่าแก่อายุกว่า100ปี ขนาดใหญ่สูงกว่า 10 เมตร ที่อยู่ข้างศาลาการเปรียญ โดยขณะลงมือตัดจะมีชายฉกรรจ์ถือปืนคุมเชิงบริเวณประตูเข้า-ออกวัด 2 คน และใกล้กับบริเวณที่ตัดอีก 2 คน ซึ่งขณะแก๊งคนร้ายทำการลักลอบตัดต้นพะยูงภายในวัด ก็มีทั้งพระ ช่างที่มาก่อสร้างซุ้มประตู และคนงานที่มาขอพักอาศัยในศาลาวัดใกล้กับจุดเกิดเหตุกว่า10คนก็เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปรามกลุ่มแก๊งดังกล่าว เพราะเกรงจะได้รับอันตรายเนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีอาวุธครบมือ

โดยแก๊งดังกล่าวใช้เวลาเพียง 10 นาทีก็ทำการตัดโค่นต้นพะยูง และหั่นเป็นท่อนๆ ขนขึ้นกระบะก่อนจะลำเลียงหลบหนีออกจากวัดไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทั้งพระและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ จึงแจ้งเจ้าอาวาสและผู้ใหญ่บ้านรับทราบ ก่อนที่พระครูสุวัตรประชาทร เจ้าอาวาส จะนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.เมือง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

นายกฤษณะ บุญจรัส อายุ 41 ปี ช่างที่มาก่อสร้างซุ้มประตูวัด บอกว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณตี4ตนและครอบครัวก็นอนอยู่ในวัด จู่ได้ยินเสียงรถกระบะขับเข้ามาแล้วเห็นชายฉกรรจ์ประมาณ 15 คนสวมหมวกอีโม่งปิดบังใบหน้า ทั้งยังมีเลื่อยยนต์และอาวุธปืนครบมือ มาขโมยตัดต้นพะยูงเก่าแก่ภายในวัดโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และไม่กลัวบาปกรรม ต่อหน้าพระสงฆ์ และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามปราม เนื่องจากกลัวจะถูกทำร้ายเพราะแก๊งคนร้ายมีอาวุธครบมือ จึงได้แต่โทรศัพท์ไปแจ้งผู้นำชุมชนให้ทราบ ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการท้าทายกฎหมายอย่างมาก และคาดว่าคนร้ายนาจะตระเวนก่อเหตุมาแล้วหลายพื้นที่ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ให้ได้โดยเร็ว เพราะขนาดในวัดยังไม่เว้น หากปล่อยไว้ก็จะก่อเหตุซ้ำอีกแน่นอน