ADVANC - ซื้อ

ADVANC - ซื้อ

กำไรไตรมาส 3/61 ต่ำกว่าคาด; ปรับลดรายได้บริการและกำไรปี 2561 ลงจากเดิม

เนื่องจากการคาดการณ์รายได้บริการปี 2561 ที่มีแนวโน้มลดลงจากเดิม เราจึงทำการปรับลดประมาณการรายได้บริการและกำไรสุทธิรวมถึงราคาเป้าหมายของ ADVANC ลงจากเดิม ถึงแม้ว่าปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2561-62 ลงจากเดิม แต่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับ 3.5-4% ก็ยังคงถือว่าอยู่ในระดับที่ดี เรามองว่าปัจจัยเสี่ยงในปี 2562 ได้แก่ การแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่อาจจะมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากการทำตลาดที่จะกลับมาร้อนแรงมากขึ้นของ DTAC หลังจากที่ประมูลชนะใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ซ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ค่าใช้จ่ายด้านเงินอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/61—ต่ำกว่าคาด

ADVANC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/61 ที 6.8 พันล้านบาท ลดลง 9%YoY และ 15% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาสนี้ได้แก่ กาไรจากอัตราแลกเปลี ยน 12 ล้านบาท ผลประโยชน์ทางด้านภาษีจากเงินลงทุน 134 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายด้านภาษีย้อนหลังจากกรมสรรพากรสำหรับการคำนวณส่วนแบ่งรายได้ กำไรหลักในไตรมาสนี้อยู่ที 6.61 พันล้านบาท ลดลง 4%YoY และ 13%QoQ กำไรสุทธิและกำไรหลักต่ำกว่าคาด 15% และ 14% ตามลำดับ เนื่องจากรายได้บริการที ต่ำกว่าคาดต้นทุนด้านกฎระเบียบ ต้นทุนด้านโครงข่าย ต้นทุนด้านการตลาดและค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานทั่วไปที่สูงกว่าคาด รายได้บริการ (ที่ไม่รวมไอซีและค่าเช่าอุปกรณ์) เพิ่มขึ้น 2.1%YoY แต่ลดลง 1%QoQ ในขณะที่รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งได้รับผลกระทบทางลบจากแพ็กเกจการใช้งานดาต้าแบบไม่จำกัดด้วยความเร็วคงที ลดลง 0.2%YoY และ 1.1%
(ดูรายละเอียดได้ในหน้าที 4)

ปรับลดเป้ารายได้บริการหลักสำหรับปี 2561 ลงอีกครั้ง

บริษัททำการปรับลดเป้าอัตราการเติบโตของรายได้บริการหลัก (ไม่รวมไอซีและค่าเช่าอุปกรณ์) สำหรับปี 2561 ลงจาก 5-7% เหลือ 3.5-4.5% เพือสะท้อนอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ชะลอตัวลงและความนิยมในแพ็คเก็จการใช้งานดาต้าแบบไม่จำกัดที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เนื่องจากแพ็กเก็จการใช้งานดาต้าแบบไม่จำกัดในระดับราคาที่ถูกลงได้ถูกยกเลิกไปแล้ว (ด้วยแพ็กเก็จราคา600 บาทมาแทนที 299 บาท) เราจึงคาดว่ารายได้เฉลี่ยต่อรายของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนทีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสถัดไป เป้า EBITDA มาร์จิ้นในปี 2561 ยังคงอยู่ในกรอบเดิมที 45-47% ส่วนเป้างบลงทุนที เป็นเงินสดในปี 2561 ยังคงเท่าเดิมที 2.5 หมื นล้านบาท เราคาดว่าค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในไตรมาส 4/61 ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น QoQ หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น รวมถึงกิจกรรมการสร้างแบรนด์และค่าใช้จ่ายด้านโฆษณาที่ยังคงมีต่อเนื่อง และการทำโปรโมชั่นในพื้นที ต่างจังหวัดมากขึ้นในส่วนของเป้าลูกค้าบรอดแบนด์ประจำที่ที่ 8 แสนราย ณ สิ้นปี 2561 เรายังคงมุมมองเดิมว่ายากและท้าทายอย่างมากที จะทำได้ตามเป้าดังกล่าวซึ่งนั่นหมายถึงจะต้องได้ลูกค้ารายใหม่สุทธิเข้ามาอีก 1.23 แสนรายในไตรมาส 4/61

ปรับลดประมาณการรายได้บริการและกำไรสุทธิปี 2561 ลงจากเดิม

เนื่องจากรายได้บริการหลัก (ไม่รวมไอซีและค่าเช่าอุปกรณ์) เติบโตเพียงแค่ 3.9% YoY ในขณะที่รายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตเพียงแค่ 1.4% YoY สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2561 เราจึงทำการปรับลดประมาณการรายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ลงอีก 1.6% (เหลือ 1.31 แสนล้านบาท) และปรับลดประมาณการรายได้บริการหลัก (ที่รวม CSL แล้ว) ลงอีก 2% (เหลือ 1.34 แสนล้านบาท) ดังนั้นจึงส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ลดลงอีก 7% (เหลือ 2.98 หมื่นล้านบาท) และราคาเป้าหมายซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF ณ สิ้นปี 2562 ลดลงอีก 4.4% (เหลือ 215 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนประมาณการรายได้บริการที่ลดลงจากเดิมและต้นทุนบริการที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายและต้นทุนด้านคอนเทนต์) ประมาณการใหม่สำหรับอัตราการเติบโตของรายได้บริการหลักที 4.1% YoY ของเราถือว่าสอดคล้องกับเป้าใหม่ของอัตราการเติบโตของรายได้บริการหลักของบริษัทที 3.5-4.5% สำหรับในปี 2561