แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1680-1700 จุด แม้อาจผันผวนระหว่างทาง

แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1680-1700 จุด แม้อาจผันผวนระหว่างทาง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกต่อเป็นวันที่ 3 ตามความเสี่ยงเชิงระบบที่ลดลง

จาก 1) ประเด็นข้อพิพาททางการค้าจีน-สหรัฐฯที่มีโอกาสคลี่คลาย 2) การเจรจา Brexit ที่คืบหน้าซึ่งจะหนุนการขึ้นดอกเบี้ยของอังกฤษทำให้ค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นและค่าเงินสหรัฐฯ อ่อนลง 3) แผนการออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้การอ่อนค่าลงแรงของค่าเงินสหรัฐฯ และการชะลอตัวของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (EM) ในช่วงสั้น

สำหรับตลาดหุ้นไทย โมเมนตัมการฟื้นตัวยังได้รับอานิสงส์จากบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมที่ผ่อนคลาย เราประเมินภาพรวม SET Index เป็นบวกมากขึ้นจากเม็ดเงินลงทุน LTF ที่คาดทยอยไหลเข้าซื้อหุ้นไทยในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. และประเด็นสงครามการค้าที่คาดไม่มีพัฒนาการใหม่จนกว่าจะถึงการประชุมในช่วงปลายเดือนหน้า โดยคาดดัชนีมีโอกาสขึ้นต่อเพื่อทดสอบ 1680-1700 จุด แม้อาจเผชิญความผันผวนระหว่างทาง กลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำ selective buy ในหุ้นพื้นฐานดีและกลุ่มปลอดภัย (defensive) อาทิ สื่อสาร ไฟฟ้า กอง REIT รวมถึงหุ้นปันผลสูงที่คาดแข็งแกร่งกว่าตลาดโดยรวม อาทิ DTAC, CPALL, BCPG, CKP*, JASIF*, DIF*, BCP, ESSO* สำหรับหุ้นพลังงาน ทยอยสะสมหรือซื้อเมื่ออ่อนตัว รวมถึงหุ้นค้าปลีกที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากการบริโภคที่ฟื้นตัว การเข้าสู่ช่วง High season รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี CPALL, BJC*, ROBINS

Investment Theme หุ้นใหญ่และกลุ่มหุ้นเลือกตั้ง BBL, SCB, STEC, CPALL, AMATA/ หุ้นเล็กที่น่าสนใจ GUNKUL*, DTC*, EASTW*, AEONTS* / หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง-ปันผล CPNREIT, CPN, PSH, AP, SPF*, EA, BCPG

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวบริเวณ 1650-1680 จุด ก่อนขึ้นทดสอบ 1700 จุด เน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อยหรือนักลงทุนมีการถือครองต่ำ (under-owned) ยังระวังหุ้นกลาง-เล็กที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานไม่ได้ // หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL, GUNKUL /เก็งกำไรสั้น BCP (เป้า 36 ตัดขาดทุน 31.25), CKP*(เป้า 5.40 ตัดขาดทุน 4.90) และ TVO* (เป้า 33 ตัดขาดทุน 27.50)

แนวรับ 1660 / แนวต้าน : 1680-1700 จุด สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

 

ประเด็นการลงทุน

หุ้นที่เป็นเป้าหมายซื้อคืน – หุ้นที่ถูกเปิดสถานะ short มากที่สุดในเดือน ต.ค. และมีโอกาสตกเป็นเป้าหมายการซื้อคืน (ถูกขายมากสุดไปน้อยสุด) ได้แก่ PTTEP, KBANK, PTTGC, BEAUTY, PTT, CPALL, TOP, IVL, MTC, SCB, EA, BBL, KTC, IRPC, AOT, ADVANC, BANPU, AMATA, TRUE, WORK, MINT, KTB, SCC, CBG, WHA

เงินเฟ้อไทยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด - ก.พาณิชย์ระบุอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.23% YoY (ต่ำกว่าคาดที่ 1.30%) ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 0.75% YoY (ต่ำกว่าคาดที่ 0.80%), เฉลี่ย 10 เดือนแรกโต 1.15%

ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นลดลงทุกองค์ประกอบยกเว้นด้านต้นทุน – ธปท. เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนต.ค.61 อยู่ที่ระดับ 49.6 ปรับลดลงจากเดือนก่อนในเกือบทุกองค์ประกอบ ยกเว้นด้านต้นทุน

EEC ส่งผลให้ปริมาณน้ำขาดแคลน – ผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความกังวลต่อปริมาณน้ำที่จะขาดแคลนจากโครงการ EEC ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยปัจจุบันปริมาณอุปสงค์ใช้น้ำใน 3 จังหวัด EEC อยู่ที่ 739 ล้านลบม. ในขณะที่ประมาณการณ์อุปสงค์ในอนาคตคาดว่าอยู่ที่ 1.21 พันล้านลบม.

ประเด็นติดตาม: 2 พ.ย. – ตัวเลขการจ้างงาน, ดุลการค้า สหรัฐฯ  / 6 พ.ย. – เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ / 30 พ.ย. – ประชุม G20

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)