มีความหวังสงครามการค้าคลี่คลาย

มีความหวังสงครามการค้าคลี่คลาย

SET Index วานนี้ปรับตัวลง หลังจากที่วันก่อนหน้าปรับตัวขึ้นแรงกว่า 30 จุด

ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่จับตาการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ถึงแม้จะมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อกลับเข้ามาจากฝั่งนักลงทุนสถาบันอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,667.55 จุด (-1.54 จุด) Volume 5.1 หมื่นลบ. จาก Foreign Net -1,578.08 ลบ. TFEX Net +2,799 สัญญาตราสารหนี้ +5,758 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเป็นวันที่ 3 ขานรับข่าวปธน.ทรัมป์คุยโทรศัพท์กับปธน.สี จิ้นผิงยืนยันพบกันในเวที G20 เพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐ-จีน และได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบจ.

+ EU ใกล้บรรลุข้อตกลง Brexit ในภาคบริการทางการเงิน

+ BoE มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ตามคาด ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดหาก Brexit ราบรื่น และประกาศปรับลดตัวเลข GDP และเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในปีหน้า

+ ก.พาณิชย์รายงานเงินเฟ้อต.ค. +1.23% สูงกว่าตลาดคาดที่ 1.3% 10M61 เงินเฟ้อ  +1.15% ต่ำกว่าค่ากลางที่ 1.25%

- ราคาน้ำมันดิบปิดปรับลดลงติดต่อกันวันที่ 4 จากความกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง

- สหรัฐเผยการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างทรงตัวในเดือนก.ย.ต่ำกว่าคาดเพิ่มขึ้น

-ธปท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนต.ค.ลดลงกังวลส่งออกลดกระทบยอดคำสั่งซื้อ-การผลิต

+/- ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐร่วงลงมากกว่าคาดในเดือนต.ค. สวนทางกับมาร์กิตที่เผยเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐพุ่งสูงสุด 5 เดือนในต.ค.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.75 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.92 บาท/US

*จับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสพลิกบวกขานรับตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาคที่พุ่งขึ้นขานรับความหวังสงครามการค้าสหรัฐ-จีนคลี่คลาย  โดยยังมีปัจจัยลบจากนักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายต่อเนื่อง  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,660 -1,690 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

-Low Beta High Dividend ANAN PSH QH ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.92 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO KCE

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP AUCT

หุ้นแนะนำพิเศษ

SPALI (ราคาปิด 22.50 Bloomberg Consensus 27.63)

  • ยอดขาย presale 9M61 ทำได้เกือบ 2.9 หมื่นล้านบาท +14%YoY หรือคิดเป็น 87% ของเป้าหมาย ส่งผลให้ backlog ล่าสุดอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง 4.4 หมื่นล้านบาทที่จะทยอยรับรู้ไปอีก 4 ปีข้างหน้า
  • Bloomberg Consensus คาดกำไร 3Q61 ราว 1.5 พันล้านบาท +25%QoQ -27%YoY (3Q60 มีกำไรพิเศษจากการขายอาคารสำนักงาน 366 ล้านบาท) และคาดกำไรปี 61 ราว 5.8 พันล้านบาท ทรงตัว YoY  1H61 มีกำไร 09 พันล้านบาท +4%YoY กำไร 4Q61 มีแนวโน้มสูงสุดรายไตรมาสจากแผนโอนคอนโดฯ 3 โครงการ มูลค่ารวม 4.9 พันล้านบาท ซึ่งมียอดจองแล้ว 3.1 พันล้านบาท คิดเป็น 63%
  • ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวที่รายได้และกำไรมีศักยภาพเติบโตต่อเนื่อง ราคาปิดล่าสุดลดลง 7.6%YTD และซื้อขายที่ระดับ PER 7.8 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 17.6 เท่า ปีนี้จะกลับมาจ่ายเงินปันผล ซึ่ง IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 4.6%

หุ้นมีข่าว   

·        ADVANC (ราคาปิด 196 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 222.84) รายงานกำไรสุทธิ 3Q61 อยู่ที่ 6,800 ลบ. -15%QoQ -9%YoY น้อยกว่าที่ Bloomberg Consensus คาด 14% ที่ 7,913 ลบ. จากค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นราว 2%QoQ 10%YoY จากการขยายโครงข่าย และค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่ประมูลมาใหม่ ซึ่งเริ่มตัดจำหน่ายเมื่อวันที่ 24 กย. และมีค่าใช้จ่ายพิเศษ 134 ลบ.จากข้อเรียกร้องของกรมสรรพากรในกรณีภาษีหัก ณ ที่จ่าย

·        IVL เข้าซื้อกิจการไฟเบอร์ในบราซิลกำลังผลิต 7.5 หมื่นตัน/ปีคาดแล้วเสร็จใน Q4/61 (ที่มา : IQ)

·        SSP (ราคาปิด 8.00 ซื้อ ราคาเหมาะสม 11.20) คาดมูลค่าลงทุนโครงการโซลาร์เวียดนาม 49.61 MW รวม 48.6 ล้านเหรียญฯ โดยมีโครงสร้างค่าไฟฟ้าแบบ Feed IN Tariff (FIT) อัตรา 9.35 เซ็นดอลลาร์/หน่วย เป็นระยะเวลา 20 ปีเริ่ม COD กลางปี 62 (ที่มา : IQ)

ความเห็น : โครงการที่เวียดนามที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลให้ผลประกอบการปี 62 บริษัทจะมีรายได้และกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทจะมีกำลังการผลิตรวมในมือทั้งสิ้น 244 MW ซึ่งถือว่าทำได้เกินเป้าที่บริษัทตั้งไว้หลัง IPO ที่ 200 MW โดยเรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 61 ที่ 550 ลบ. เติบโต 63%YoY

·        CI  คาดผลประกอบการในปีนี้โต 10-15% โดย 4Q61 จะทำผลงานได้ดีที่สุดของปี จากการทยอยโอนโครงการที่มียอดขายในมือ (Backlog) ปัจจุบันราว 1.5 พันล้านบาท ขณะที่บริษัทเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่า 500 ล้านบาท ส่วนปี 62 มีแผนขายสินทรัพย์เข้า REIT เพิ่มอีก 800-1,000 ล้านบาทพร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 25% (ที่มา : IQ)

·        BAY รุกขยายสาขาดิจิทัล Smart Branch ผ่านการออกแบบที่เน้นให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งสะดวกและรวดเร็วขึ้น ทั้ง ฝาก ถอน โอน จ่าย อัพเดทสมุดบัญชี และเปิดบัญชีอัตโนมัติ เป้าเพิ่มเป็น 12 สาขาในปี 62 ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน (ที่มา : IQ)

·        GULF (ราคาปิด 77.75 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consessus 74.85) เผยโรงไฟฟ้า SPP ขนาด 126.8 MW จำนวน 90 เมกะวัตต์ (MW) ในจ.อยุธยา เริ่ม COD แล้ว โดยโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. เป็นระยะเวลา 25 ปี และปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้า SPP ที่เหลืออีก 4 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามกำหนดในระหว่างเดือนม.ค.-ก.ค.62 (ที่มา : IQ)