หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ

บริษัทหลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ระบุว่า วานนี้ (1 พ.ย.) ดัชนี SET Index แกว่งแคบปิดลบเล็กน้อย -1.54 จุด (-0.09%) ปิดที่ 1,667 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีดีดตัวขึ้นแรงตอบรับปัจจัยบวกความคาดหวังการเจรจาสหรัฐกับจีนจะได้ข้อตกลงทางการค้า นอกจากนี้ยังมีแรงขายในกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิ 1,578 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 5,758 ล้านบาท และ Net long TFEX 2,799 สัญญา

สำหรับ แนวโน้มวันนี้ (2 พ.ย.) มีมุมมองเป็นกลาง-บวก คาดดัชนีปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,675 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยภาวะตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เป็นบวกมากขึ้นหลัง ปธน.ทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับปธน.สีจิ้นผิงเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าเป็นไปด้วยดี และยืนยันจะเจรจานอกรอบการประชุม G20 ในวันที่ 30 พ.ย.–1 ธ.ค.

นอกจากนี้ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐเดือนต.ค.พุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 55.7 จุดก็เป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงต่อเนื่องจาก Supply น้ำมันในตลาดที่เพิ่มขึ้นหลังรัสเซียและสหรัฐเพิ่มการผลิต รวมถึงความกังวล Demand การใช้น้ำมันที่ลดลงจากปัญหา Trade war จะเป็นตัวถ่วงต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้กระแส Fund flow ต่างชาติที่ยังคงเป็น Net sell ต่อเนื่องก็จะเป็นตัวฉุดดัชนีให้อ่อนตัวลงด้วยเช่นกัน

ด้านกลยุทธ์การลงทุนวันนี้  แนะนำ Selective Buy ทยอยสะสมหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการ 3Q18 จะออกมาดี MTC, SAWAD, ROBINS, ANAN, SVI, BCH, CHG, CKP, EA, GULF, PYLON และ STA

กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และรัฐบาลอนุมัติโครงการขนาดใหญ่ใน EEC 5 โครงการวงเงิน 6.5 แสนล้านบาท กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, MINT, ERW) ทยอยสะสมคาดได้ผลบวกจากภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (ฟรีวีซ่า ออน อาร์ไรวัล) ในช่วงเดือน พ.ย. ถึง ม.ค.