'บิ๊กโจ๊ก' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเลเซีย ตุ๋นทำบุญ

'บิ๊กโจ๊ก' ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเลเซีย ตุ๋นทำบุญ

“บิ๊กโจ๊ก” ทลายเครือข่ายแกงค์คอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ จับมาเลเซีย-ไทยรวม 15 คน ตุ๋นเหยื่อทำบุญสร้างวัด สร้างพระ เสริมดวงชะตาสะเดาะเคราะห์ พบรายได้ 5 ล้านบาทต่อเดือน

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.61 ที่ด่านพรมแดนสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่แถลงผลการกวาดล้างทลายเครือข่ายแกงค์คอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงข้ามชาติ

หลังจากที่เมื่อวันที่ 31 พ.ย.ที่ผ่านมาทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจ.สงขลา ทหาร ร5021 และตำรวจสภ.สะเดา ระดมกวาดล้างพื้นที่เป้าหมายรวม5จุด ในพื้นที่บ้านด่านนอก เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายแดนไทยมาเลเซีย

โดยสามารถจับกุมเครือข่ายแกงค์คอลเซ็นเตอร์ทั้งชาวมาเลเซียและคนไทยรวม15คน เป็นหญิงไทย5คน และชายชาวมาเลเซีย 10 คน ยึดโทรศัพท์มือถือได้ 51 เครื่อง คอมพิวเตอร์7เครื่อง บัญชีธนาคาร8เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 55 ใบ รถยนต์ 4 คัน รถจักรยานยนต์4คัน เงินสดไทย 41,500 บาท และเงินริงกิตมาเลเซีย 31,043 ริงกิต

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การจับกุมแกงค์คอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ทางศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ศปอส.ตร.) ได้ สืบสวนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อตั้งเป็นศูนย์คอลเซ็นเตอร์ใช้ในการหลอกลวงประชาชนชาวจีน ไต้หวันและมาเลเซีย โดยจะเข้ามาทางด้านชายแดนไทย – มาเลเซีย ทางด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา โดยมีชายชาวมาเลเซียชื่อ “นายอาคุน” เป็นหัวหน้าขบวนการ แก๊งคอลเซ็นเตอร์

กลุ่มนี้จะมีวิธีการ รูปแบบในการหลอกลวงประชาชนคือจะเปิดเว็บไซต์หรือเปิดโปรแกรมเฟสบุ๊คและโฆษณาเพื่อชักชวนเหยื่อให้ร่วมทำบุญ จัดสร้างพระ สร้างวัด จัดงานทำบุญต่างๆหรือบางครั้งจะหลอกให้เหยื่อทำบุญเพื่อเสริมดวงชะตาหรือเพื่อสะเดาะเคราะห์ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะโอนเงินไปให้โดยโอนผ่านเข้าบัญชีธนาคารที่กลุ่มขบวนการจัดเตรียมไว้ เมื่อเหยื่อโอนเงินเข้าตามจำนวนที่ทางขบวนการต้องการแล้ว หลังจากนั้นแก๊งดังกล่าวจะปิดเว็บไซต์และปิดการติดต่อสื่อสารกับเหยื่อทุกช่องทางแล้วหลบหนีไป จึงได้ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซีย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา ตำรวจท่องเที่ยว สถานีตำรวจภูธรสะเดา และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ ส่วนหญิงชาวไทยทั้ง5คนทำหน้าที่หาที่พักให้ ซึ่งจะเปิดอาพาร์ทเม้นท์เป็นที่ทำการ

พล.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ที่ถูกควบคุมตัวที่เป็นคนต่างชาติได้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินเพิกถอนการพักอาศัยในประเทศไทย และประสานส่งตัวดำเนินคดีในประเทศมาเลเซีย พร้อมส่งมอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่ตรวจยึดได้ โดยในส่วนผู้ถูกควบคุมที่เป็นคนไทยอยู่ระหว่างทำการซักถามขยายผลเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใดมีส่วนร่วมหรือรู้เห็นในกระทำความผิดหรือไม่ หากพบว่าเกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับวิธีการที่จะป้องกันการถูกแกงค์คอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน หากมีการโทรศัพท์มาติดต่อให้ทำธุรกรรมทางการในกรณีใดๆก็ตาม ให้โทรมาสอบถามได้ที่หมายเลข 1155 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายว่าของจริงหรือว่าถูกหลอก