ชาวนานอนเฝ้าข้าว หวั่นหายหลังราคาพุ่ง

ชาวนานอนเฝ้าข้าว หวั่นหายหลังราคาพุ่ง

ชาวนาโคราชจัดเวรยามนอนเฝ้า หวั่นข้าวที่ตากไว้ถูกขโมย หลังราคาข้าวพุ่งสูงถึงตันละ 17,000 บาท

วันนี้ (1 พ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาข้าวในปัจจุบันขยับสูงขึ้นมีการปรับราคารับซื้อขึ้นแทบทุกวัน โดยล่าสุดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวขายโดยไม่วัดค่าความชื้นอยู่ที่ราคาตันละ13,700-14,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิที่ค่าความชื้นอยู่ในระดับมาตรฐานที่โรงสีข้าวรับซื้ออยู่ที่ราคาตันละ16,000-17,000 บาท ทำให้เกษตรกรหลายรายต้องตากข้าวที่เก็บเกี่ยวมาเพื่อไล่ความชื้นเมื่อนำมาขายจะได้ราคาสูงขึ้น ซึ่งการตากข้าวจะใช้เวลาประมาณ2-3วันเพื่อให้ข้าวได้ความชื้นที่ต้องการ ทำให้เกิดช่องทางมีกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสในยามค่ำคืนย่องมาลักเอาข้าวในลานที่ชาวนาได้ตากรวมกันไว้ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในหลายพื้นที่

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบลานตากข้าวภายในโรงเรียนบ้านท่าหลวง ตำบลท่าหลวง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเกษตรกรหลายรายได้นำข้าว มาตากรวมกันบริเวณสนามกีฬาของโรงเรียน มีการจัดเวรยามนอนเฝ้าระวังป้องกันมิจฉาชีพลักลอบเข้ามาขโมยข้าวในช่วงเวลากลางคืน จากการสอบถามนายจรัส บุญพิมาย เปิดเผยว่าในปีนี้ผลผลิตข้าวในเขตอำเภอพิมายถือว่าให้ผลผลิตค่อนข้างน่าพอใจ เนื่องจากมีระบบการชลประทานที่ดี ในวันนี้หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจประจำวันเสร็จแล้วก็ได้มานอนเฝ้าข้าวเปลือกที่ได้ตากไว้บริเวณสนามกีฬาของโรงเรียน เพราะไม่ไว้วางใจกลัวว่าข้าวที่ตากไว้จะถูกขโมยจึงได้ตัดสินใจมานอนเฝ้า แม้อากาศปรับตัวลดลงเริ่มหนาวเย็นขึ้น อุณหภูมิประมาณ20-23องศาเซลเซียส แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคมากนัก

สำหรับราคาข้าวในปีนี้ถือว่าค่อนข้างสูง ตนเองนั้นมีข้าวเปลือกตากอยู่ที่ลานประมาณ3อุ้ม (ถังเก็บข้าวเปลือกที่ผ่านการสีของรถเกี่ยวข้าว) ถ้าตากแล้วนำไปขายจะคิดเป็นเงินประมาณ1แสนบาทเศษ ซึ่งการที่ปริมาณข้าวในปีนี้มีค่อนข้างน้อยและราคาปรับตัวสูงขึ้นทำให้เป็นแรงจูงใจให้กับมิจฉาชีพลักลอบมาขโมยข้าวได้ จึงได้มีการเฝ้าระวังไว้ก่อน และจะมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูแลความเรียบร้อยของลานตากกันตลอดทั้งคืน