ไฟไหม้โรงเรียนรับเปิดเทอม ย้ายเด็กป.2-อุปกรณ์การเรียนไม่พอ

ไฟไหม้โรงเรียนรับเปิดเทอม ย้ายเด็กป.2-อุปกรณ์การเรียนไม่พอ

คาดไฟฟ้าลัดวงจร! ไฟไหม้โรงเรียนรับเปิดเทอม ที่อ.ปลาปาก จ.นครพนม ย้ายเด็กป.2-6อุปกรณ์การเรียนไม่พอ ครูระดมทุนช่วยสร้างอาคารเรียนหลังใหม่

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 31 ต.ค.61 ร.ต.อ.ทวี สุวรรณวงศ์ พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียน ในโรงเรียนบ้านกอก หมู่ 5 เทศบาลตำบลปลาปาก อ.ปลาปาก จึงรีบประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลตำบลปลาปาก,อบต.ที่อยู่ใกล้เคียง และกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุ โดยมี พ.ต.อ.ปราโมทย์ อุทากิจ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ปลาปาก เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ

พบอาคารเรียนเป็นแบบไม้ยกสูง ปลูกสร้างมาตั้งแต่ปี 2524 จำนวน2ห้อง ใช้สำหรับทำการเรียนการสอนนักเรียนชั้น ป.2 ละ ป.6 จึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงระดมรถน้ำดับเพลิง ใช้เวลาร่วมราว 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัด ไม่ลุกลามไปติดอาคารหลังอื่นได้ แต่อาคารเรียนที่ถูกเพลิงเผาผลาญ พร้อมวัสดุอุปกรณ์ การเรียน การสอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด

หลังเพลิงสงบ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม นายปรีชาพงศ์ ทองมี นายอำเภอปลาปาก นายปิยะพงษ์ ผลาจันทร์ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (ผอ.สพป.เขต1)นครพนม พ.ต.ท.ปราโมทย์ อุทากิจ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ปลาปาก นายประกร โพธิราช ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ร่วมกันตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ เพื่อวางแผนแก้ไขปัญหา ดูแลช่วยเหลือด้านการเรียนการสอน ไม่ให้นักเรียนได้รับผลกระทบ เนื่องจากจะมีการเปิดภาคเรียนเทอมที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย.นี้

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าทางโรงเรียน คณะครู นักเรียน และชาวบ้าน ได้เข้ามาทำความสะอาดอาคารต่างๆ เตรียมพร้อมในการจัดการเรียนการสอน เพราะจะมีการเปิดเรียนในวันที่ 1 พ.ย. 61 ไม่นานมีชาวบ้านเห็นควันไฟโขมงลอยอยู่เหนืออาคารเรียน จึงรีบไปบอกชาวบ้านมาช่วยกันดับ แต่สภาพอาคารเป็นเรือนไม้เก่า ประกอบกับมีลมหนาวพัดตลอดเวลา ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆออกอาคารหลังดังกล่าวได้แม้แต่ชิ้นเดียว มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่จะประสานกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะสภาพอาคารเก่าอายุเกือบ 40 ปี แต่ตลอดเวลาการใช้งาน ทางโรงเรียนได้มีการพัฒนาปรับปรุงบางส่วนของอาคาร เพราะเห็นว่ายังสามารถใช้ทำการเรียนการสอนได้

อย่างไรก็ตามจะได้มีการวางแผน จัดสถานที่เรียนชั่วคราวให้นักเรียนชั้น ป.2 และ ป.6 ย้ายไปเรียนที่อาคารหลังใหม่ ส่วนเรื่องวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอน อาจจะไม่เพียงพอ ต้องของบประมาณสนับสนุนจาก สพป.เขต 1 และขอรับบริจาคจากผู้ใจบุญ ร่วมสมทบทุนช่วยเหลืออีกทาง