ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกขานรับคืบหน้าเบร็กซิท

นายโดมินิค แรบ รัฐมนตรีฝ่ายกิจการการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) ระบุว่า เขาคาดว่าอังกฤษจะสามารถทำข้อตกลงเบร็กซิท กับสหภาพยุโรป (อียู) ได้ภายในวันที่ 21 พ.ย. นี้ โดยนายแรบ กำหนดวันดังกล่าวในจดหมายที่ส่งไปยังนางฮิลารี เบนน์ ประธานคณะกรรมาธิการเบร็กซิทของรัฐสภาอังกฤษ โดยจดหมายลงวันที่ 24 ต.ค.

“เราใกล้บรรลุข้อตกลงเบร็กซิทแล้ว ถึงแม้ยังคงมีอุปสรรค แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเราที่จะก้าวข้ามไป” เนื้อหาในจดหมายระบุ

ข่าวนี้ทำให้ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วมด้วย

ทั้งนี้ ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,128.10 จุด เพิ่มขึ้น 92.25 จุด หรือ +1.31%

ความเคลื่อนไหวนี้ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากก่อนหน้านี้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ออกรายงานเตือนว่า การที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอย

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 2.7% และหุ้นโททาล เพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 2.1% และหุ้นเกลนคอร์ ทะยานขึ้น 3.4%