"ทรัมป์"เยือนโบสถ์ยิวหลังเกิดเหตุกราดยิง

"ทรัมป์"เยือนโบสถ์ยิวหลังเกิดเหตุกราดยิง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ลงพื้นที่เยือนโบสถ์ยิวในเมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุมือปืนกราดยิงในโบสถ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายและบาดเจ็บอีก 6 รายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปธน.ทรัมป์ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ได้เดินทางเยือนโบสถ์ทรีออฟไลฟ์ ในเมืองพิตส์เบิร์ก ซึ่งเป็นชุมชนที่มีชาวยิวอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น แม้จะมีกระแสต่อต้านจากชาวชุมชนและผู้นำทางศาสนาก็ตาม

ปธน.ทรัมป์ และนางเมลาเนียได้วางกุหลาบขาวและก้อนหินจากทำเนียบขาวที่จุดรำลึกบริเวณนอกโบสถ์ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ โดยมีผู้นำศาสนายิวอยู่ด้วย

เมื่อวันเสาร์ (27ต.ค.)ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 ราย และบาดเจ็บ 6 ราย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากมือปืนคือนายนายโรเบิร์ต บาวเวอร์ส ได้ก่อเหตุกราดยิงโบสถ์และผู้ที่ร่วมพิธีในโบสถ์

สื่อของสหรัฐรายงานว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้เดินเข้าสู่ภายในอาคารของโบสถ์ พร้อมตะโกนว่า “ชาวยิวทุกคนต้องตาย” และต่อมาผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี 29 คดี ซึ่งรวมถึงคดีก่ออาชญากรรมด้วยความเกลียดชัง และข้อหาตามกฎหมายท้องถิ่นอีก 36 ข้อหา

ผู้นำชุมชนและผู้นำศาสนาต่างต่อต้านการมาเยือนของปธน.ทรัมป์ โดยมีรายงานว่านายบิล เปดูโต นายกเทศมนตรีเมืองพิตส์เบิร์ก สังกัดพรรคเดโมแครตกล่าวว่า ทำเนียบขาวควรปรึกษาและเคารพต่อคำขอของบรรดาครอบครัวเหยื่อ และขอร้องว่าอย่าให้ปธน.ทรัมป์เดินทางมาร่วมงานศพ