แรงหนุนจากกองทุน

แรงหนุนจากกองทุน

SET Index วานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

หลัง สศค.รายงานศก.ไทยเดือนก.ย.เติบโตต่อเนื่อง และคงคาดการณ์ GDP ไทยปี 61 โต 4.5% แม้ปรับลดส่งออกเหลือโต 8% จากภาวะศก.คู่ค้าชะลอตัว-สงครามการค้า โดยกลุ่ม Big Cap ที่หนุนตลาดได้แก่  PTT EA และ SCC ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,638.51 จุด (+1.63 จุด) Volume 3.7 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -1,333.85 ลบ. TFEX Net +618 สัญญาตราสารหนี้ +6,737 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์พุ่ง 431.72 จุด รับ"ทรัมป์"ส่งสัญญาณพร้อมทำข้อตกลงการค้าจีน,ผลประกอบการสดใสของบริษัทจดทะเบียน

+ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.8%  และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 137.9

+ครม.อนุมัติ 4 โครงการใน EEC ศูนย์ซ่อมอากาศยาน-สนามบินอู่ตะเภา-ท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเรือมาบตาพุด

-น้ำมันปิดลบจากคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งติดต่อกันสัปดาห์ที่ 6

-EU เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจยูโรโซนร่วงลงสู่ 109.8 ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10

-ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาส 3

-สศอ.เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ก.ย.61 ลดลง 2.6% แต่ Q3/ 61 ยังขยายตัว 1%

-สนง.สถิติจีนเผยดัชนี PMI ภาคบริการชะลอตัวลงจากระดับ 54.9 ในเดือนก.ย.สู่ระดับ 53.9 ในเดือนต.ค.

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.73 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 33.26 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อจากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐทั้งดัชนีราคาบ้านและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้น อีกทั้ง ครม. ได้อนุมัติ 4 โครงการใน EEC อย่างไรก็นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันดัชนี คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,630-1,655 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

-Low Beta High Dividend ANAN PSH QH ASK TISCO KKP SPRC TOP TKS

-เงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.26 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO KCE

-หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP AUCT

หุ้นแนะนำพิเศษ

XO (ราคาปิด 10.30 ซื้อ ราคาเหมาะสม 13.00)

  • ฝ่ายวิจัยคาดอัตรากำไรขั้นต้น 3Q61 จะปรับตัวขึ้นราว 2-3% สู่ระดับ 39-40% จาก 1)ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวลง 11%YTD สู่ระดับ 13 เซนต์ต่อปอนด์ โดยบริษัทได้ทำสัญญาซื้อน้ำตาลล่วงหน้ากับคู่ค้าไปจนถึงกลางปี 62 2)บริษัทได้ปรับราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขึ้นเฉลี่ย 2% ตั้งแต่ 3Q61 เป็นต้นไป
  • ปรับเพิ่มประมาณการปี 61-62 ขึ้น 36% และ 37% สู่ 183 ล้านบาทและ 206 ล้านบาท เนื่องจาก 2H61 เป็น High season ของบริษัท อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 36.5% ใน 1H61 สู่ระดับ 39-40% ใน 2H61 จากการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เฉลี่ยและราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโต

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก
ตลาด
SET / หมวดขนส่ง และโลจิสติกส์

TFFIF (ราคาเสนอขายหน่วยละ 10 บาท คาดปี 62 ปันผล ราวร้อยละ 4.75มีนโยบายปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง)

  • TFFIF กองทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมลงทุนใน 2 โครงการ คือ เส้นทางพิเศษฉลองรัช ปี 60 เส้นทางพิเศษฉลองรัช (ระยะทาง 28.2 กม.) สร้างรายได้ 2,918 ลบ. มีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 2.2 แสนคันต่อวัน มีความสามารถในการรองรับ 3.5 แสนคันต่อวัน และ 2.เส้นทางพิเศษบูรพาวิถี (ระยะทาง 55 กม.) ปี 60 สร้างรายได้ 2,081 ลบ. มีปริมาณการจราจรเฉลี่ย 1.5 แสนคันต่อวัน มีความสามารถในการรองรับ 3.6 แสนคันต่อวัน สำหรับเส้นทางพิเศษฉลองรัชและบูรพาวิถี มีอัตราการเติบโตของรายได้ และการจราจรเฉลี่ย 3.7% และ 4.7% ต่อปี ตามลำดับ ซึ่ง TFFIF มีสิทธิร้อยละ 45 ในส่วนแบ่งรายได้จากค่าผ่านทาง 2 แห่งนี้ เป็นระยะเวลา 30 ปี
  • ภายหลังที่จากที่มีการเสนอขายไปแล้ว TFFIF ไปเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนหุ้นที่เสนอขายได้ทั้งหมด 4,470 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 7 หมื่นลบ. ประกอบด้วย กระทรวงการคลังจำนวน 357 ล้านหน่วย ผู้จองซื้อทั่วไปจำนวน 2,300 ล้านหน่วย และนักลงทันสถาบันจำนวน 1,813 ล้านหน่วย
  • TFFIF มีราคาเสนอขายที่ 10 บาท มีนโยบายการจ่ายปันผลอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในแต่ละรอบปีบัญชีจะจ่ายในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว อีกทั้งมีการประมาณการว่าจะมีการปันส่วนแบ่งให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในปีแรก (สิ้นสุด 30 ก.ย.62) ในอัตราร้อยละ 751

หุ้นมีข่าว   

·        + ประเด็นบวกหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัย : LPN QH PSH PF ขนคอนโดมิเนียมในสต๊อกร่วมโครงการบ้านหลังของธอส. ทั้งนี้ ธอส.เตรียมเสนอครม.อนุมัติสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลังในวันที่ 6 พ.ย. แบ่งเป็นสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยวงเงิน 1 หมื่นล้านบาทให้กู้สำหรับผู้ประกอบการที่จัดทำที่อยู่อาศัยที่มีราคาขายไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อหน่วยไม่น้อยกว่า 40% ของจำนวนหน่วยขายทั้งหมด และสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้ารายย่อยวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        + AOT รายงานงวดปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60-ก.ย.61) (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ต.ค.61) มีผู้โดยสาร  139.52 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8%YoY  มีเที่ยวบินจำนวน 875,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 6.2%YoY ผู้โดยสารจีนกว่า 19.79 ล้านคน เพิ่มขึ้น 21.8%YoY

·        CPN (ราคาปิด 77.25 Bloomberg Consensus 87.12) คาดสรุปซื้อหุ้น GLAND ต้นพ.ย.พร้อมเปิดแผนธุรกิจใน Q1-Q2/62 ซึ่งจะรวมในส่วนของ GLAND เข้ามาด้วย  บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ 20% จากการรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี ของศูนย์การค้า 2 แห่งที่เปิดบริการในปี 60 (สาขานครราชสีมา และสาขามหาชัย)  และสาขาภูเก็ตที่เปิดบริการเดือนก.ย.ปีนี้ ขณะที่การปรับปรุงสาขาพระราม 3 และเซ็นทรัลเวิลด์จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ ส่งผลให้สามารถเปิดให้บริการได้อย่างเต็มที่ จากปัจจุบันบริษัทมีอัตราการเช่าใช้พื้นที่ศูนย์การค้าฯ โดยรวมอยู่ที่ 92% สำหรับแผนการเปิดบริการ"เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้"ในมาเลเซีย (ถือหุ้น 60%) จะเลื่อนไปเปิดต้นปี 62

ความเห็น การปรับปรุงสาขาและการเปิดสาขาที่มาเลเซียล่าช้ากว่าแผน แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ  Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 61 เฉลี่ย 12,038 ลบ. เติบโต 22% จากกำไรปกติ 9.9 พันลบ.ในปี 60 และคาดกำไรงวด 3Q61 เฉลี่ย 2.8 พันลบ. -5% โดยฝ่ายวิจัยยังมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตของรายได้และผลการดำเนินงานต่อเนื่องในอนาคต

·        GLOW แจ้ง 3Q61 มีกำไรสุทธิ 2,113.90 ล้านบาท ลดลง 12.30% กำไรสุทธิงวด 9M61 เท่ากับ 6,524.10 ล้านบาท ลดลง 8.60% เนื่องจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 9.50% จากราคาถ่านหินเฉลี่ย ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลง  ณ 30 กันยายน 2561 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 3,207 เมกะวัตต์ (MW) และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 1,206 ตันต่อชั่วโมง (ที่มา ข่าวหุ้น)

·        ฟิทช์ ชี้ DTAC ชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz จะช่วยเพิ่มคุณภาพของโครงข่ายในพื้นที่ต่างจังหวัด และช่วยชะลอการลดลงของส่วนแบ่งทางการตลาดและรายได้จากการให้บริการ ถึงแ ม้ว่าค่าประมูลคลื่นความถี่ 900MHz และเงินลงทุนในการก่อสร้างโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น น่าจะกระทบต่อกระแสเงินสด แต่ฟิทช์เชื่อว่าอัตราส่วนหนี้สินของ DTAC ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในปัจจุบัน น่าจะทำให้บริษัทมีความคล่องตัวด้านการเงินสำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ที่มา : IQ)

ความเห็น : การที่ DTAC ได้คลื่น 900 MHz จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งได้ในระยะยาว แต่ในระยะ 1-3 ปีนี้ คาดจะยังถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมามาก จากค่าตัดจำหน่ายสัมปทานคลื่นที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งโครงข่าย และค่าใช้จ่ายในการออกโปรโมชันเพื่อดึงดูดลูกค้า

·        +TRC จ่อคว้างานกรมทางหลวงเพิ่ม มูลค่า 559 ล้านบาท คาดรู้ผลภายในไตรมาส 4/2561 พร้อมยื่นประมูลงานใหม่ 2 โครงการได้แก่งานก่อสร้างอาคารจากองค์การเภสัช และโครงการสายไฟฟ้าลงดินรัชดา-อโศก มูลค่ารวมประมาณ 5,300 ล้านบาท (ที่มาทันหุ้น)   

·        + MBK "ไอคอนสยาม"เตรียมเปิดตัว 9 พ.ย.นี้ ชูเป็น Destination ความภูมิใจของความเป็นไทย ดึงดูดต่างชาติเข้าใช้บริการ

·        + THG เซ็น MOU กับ Lao International Development รับบริหาร รพ.ในโครงการ World Trade Center กรุงเวียงจันทน์

·        +/-BTS คาด PTT จะเข้าร่วมทุนกลุ่ม BSR หากชนะประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

·        + PTTGC จะใช้เงินราว 281 ลบ. เข้าลงทุน 49% ในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Rotomolding Compound ในสหราชอาณาจักร (ที่มา : IQ)

·        +TAKUNI เผยบ.ย่อย ได้งานโยธาหน่วยเพิ่มออกเทนของโรงกลั่นน้ำมัน มูลค่า 312 ลบ. (ที่มา : IQ)