"ดีเอสไอ" แจงคดีบุกรุกภูขี้ไก่สอบสวนเสร็จตั้งแต่ปี 51 ส่งป.ป.ท.ฟันทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐ ชงเรื่องให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินตั้งแต่ปี 52 ต่อมาพบนายทุนต่างชาติกว้านซื้อที่ดินสร้างสวนน้ำ - ผุดชุมชนแพร่ลัทธิใหม่ จนต้องรับคดีไว้สืบสวนเพิ่ม
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.61. พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงกรณีการเปิดตัว โครงการสวนน้ำ พื้นที่ประมาณ 1,800 ไร่ บริเวณภูขี้ไก่ รอยต่อของอาเภอ หล่มเก่า และอาเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในกระบวนการเพิกถอนโฉนดของ กรมที่ดินและเป็นคดีอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอว่า กรมป่าไม้ ได้มีหนังสือที่ ทส 1612.2/7959 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2549 ถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง การออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน แจ้งว่าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบนภูขี้ไก่ รอยต่อของอ.หล่มเก่า และอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พบมีการเข้าทำประโยชน์ในที่ดินและมีการนำเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นการครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่กรมป่าไม้พิจารณาจากสภาพพื้นที่ เห็นว่าเป็นป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยมีสภาพป็นเขาสูงชัน เป็นป่าต้นน้ำ ชั้น 1 บี และ ชั้น 2 พื้นที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นป่าสมบรูณ์ และขอให้ดีเอสไอรับคดีไว้สอบสวน โดยผลจากการวิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทาง อากาศ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการออกเอกสารสิทธิดังกล่าว และเป็นบุคคลที่อยู่ในอานาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ( ป.ป.ท.)
อธิบดีดีเอสไอ ระบุด้วยว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2551 ดีเอสไอได้ส่งสำนวนให้ป.ป.ท. ดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนที่เป็นการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ดีเอสไอได้มีหนังสือ ลงวันที่ 23 ก.ค. 2552 แยกเรื่องส่งให้กรมที่ดินไปพิจารณาดำเนินการตามตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว. อย่างไรก็ตาม ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ภาค 6 ซึ่งมีภารกิจด้านการข่าว และการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษในพื้นที่ดังกล่าว ก็ได้รับแจ้งเบาะแสถึงกรณีกลุ่มนายทุนต่างชาตินำเงิน มาลงทุนซื้อที่ดินบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่ลาดชันสูง มีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง และปรับพื้นที่เพื่อ ใช้ประโยชน์ จึงรับเรื่องไว้สืบสวน เป็นสำนวนสืบสวนที่ 213/2561 ลงวันที่ 19 ต.ค.2561 ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าพื้นที่เกิดเหตุยังมีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินป็นหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์อยู่ โดยบางแปลงเป็นพื้นที่มีความลาดชันเกิน 35 องศา ซึ่งตามปกติไม่อาจออกเอกสารสิทธิได้ และบางแปลงเป็นการอ้างการครอบครองต่อเนื่องโดยไม่มีเอกสาร ส.ค.1 และไม่มีหนังสือสำคัญ
“จากการลงพื้นที่ยังได้พบกลุ่มบุคคลที่พักอยู่ในบริเวณดังกล่าวมีพฤติการณ์ส่อไปในทางสร้างลิทธิหรือความเชื่อใหม่ๆ โดยใช้ชื่อว่า ชุมชน ธะธรรมชาติ ซึ่งดีเอสไอจะเร่งสืบสวนว่าเป็นความผิดอาญาที่เข้าข่ายตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ เพื่อพิจารณาดาเนินการตามกฎหมายต่อไป”พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าว
ก่อนหน้านี้ พ.อ. พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการที่ 4 (ศปป.4) กองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ส่งข้อความผ่านไลน์เข้าไปในกลุ่มต่างๆ ในลักษณะระบายความอัดอั้นที่เห็นการทำงานของระบบราชการที่ล่าช้าและไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติการเพื่อดำเนินการกับนายทุนที่รุกป่า