"นายกฯ" เผย นัดคุย "ปลดล็อกการเมือง" ไม่เกินต้นธ.ค.นี้ บ่นสื่อถามแต่การเมือง ส่วนนิ้วซ้นอาการกำเริบ หลังเดินสายลงพื้นที่
เมื่อวันที่ 30 ต.ค.61 เวลา 13.50 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ถึงความชัดเจนในการนัดพรรคการเมืองพูดคุยเพื่อปลดล็อกภายในพ.ย.นี้หลังจากกกต.แบ่งเลือกตั้งเรียบร้อยหรือไม่ว่า ในเดือนพ.ย.ก็มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว จะเป็นพ.ย.หรือต้นธ.ค. เดี๋ยวดูกันอีกที ต้องดูเวลาที่เหมาะสม ช่วงนี้ก็รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ในสื่อโซเชียลมีเดียก็พูดกันเยอะแยะไปหมด ตนได้มอบหมายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รวบรวมไว้ทั้งหมด และหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งก็คงจะรับฟัง
"ต่างคนก็ต้องต่างฟัง ผมก็จะทนและจะฟังให้มากที่สุด ถ้าท่านพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์แม้แต่การเลือกตั้ง แต่ไม่ใช่พูดในทำนองที่ทำให้การเลือกตั้งเกิดความสับสนอลหม่าน เพราะวันนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปด้วยดี" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเริ่มเปิดรายชื่อผู้ที่จะถูกเสนอเป็นนายกฯ บ้างแล้ว พล.อ.ประยุทธ์พร้อมจะเปิดตัวหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองไหนจะเสนอใครก็ว่ากันไป ส่วนตนยังไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับใคร และยังไม่มีกำหนดเวลา ว่าต้องเมื่อไหร่อย่างไรใน "ตอนนี้ถ้าถึงเวลาถ้าผมจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับทางการเมืองก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก อยากให้ดูว่ารัฐบาลนี้ทำอะไรมากกว่า และไปดูว่ารัฐบาลต่อไปจะทำอะไรอีกบ้าง ได้มากกว่าที่ผมทำหรือไม่ เพราะฉะนั้น ขอร้องว่าอย่าไปฟังว่าไอนั่นจะทำไอนี่จะไม่ทำ เลิกเสียที ทำใหม่เพราะมันไม่ง่ายนักหรอก ถ้าทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบการบริหารราชการแผ่นดิน อย่างที่ผมทำอยู่ในเวลานี้"
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีเสียงสะท้อนในเชิงลบจะมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลและคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนฟังเสียงสะท้อนทั้งเชิงลบและเชิงบวก และแม้เสียงสะท้อนเชิงบวกจะมีมากมาย แต่สื่อก็ไปขยายตนในเชิงลบมากกว่า ส่วนผลสะท้อนเชิงบวกสื่อขยายให้ตนบ้างหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ก็ไม่ค่อยเห็น ส่วนใหญ่สื่อมักขยายเรื่องเชิงลบมากกว่า แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าเสียงสะท้อนเชิงลบจะมีมากหรือน้อยก็ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของตน ไม่ว่าจะเป็นบวกเป็นลบ ทั้งนี้ เหตุผลที่จะทำให้ตนตัดสินใจก็อยู่ที่ความสงบเรียบร้อยเป็นหลัก การดำเนินการการบริหารประเทศ ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บท เป็นสิ่งที่ตนติดตามอยู่ตลอดเวลา ก็หวังว่าประชาชนและข้าราชการจะเข้าใจว่าวันนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ซึ่งวันนี้ได้มอบหมายให้สำนักโฆษก กระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ติดตามความคิดเห็นต่างๆ ที่เข้ามาในช่องทางการสื่อสารของตน บางเรื่องจะมีการตอบคำถามแทนตนด้วย เพราะบางเรื่องตนก็ไม่สามารถตอบได้ รู้เพียงหลักการและนโยบาย รายละเอียดการปฏิบัติหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องตอบแทนได้ เฟสบุ๊กของนายกฯ ถือเป็นฐานข้อมูลกลางและสื่อกลางเพิ่มเติมจากช่องทางของกระทรวงต่างๆ
เมื่อถามถึง คำทำนายของหมอดูที่ระบุว่าจะได้เป็นนายกฯ ต่อ รวมถึงแฟนคลับชาวเชียงใหม่ต้องการให้ไปลงพื้นที่ ซึ่งนายกฯ ได้รับปากนั้นจะไปเมื่อไหร่ หรือต้องรอให้เข้าสู่เวทีทางการเมืองแล้วพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายว่า "คำถามที่พวกท่านถามมาเวิ่นเว้อเป็นการเมืองทั้งสิ้น ผมขี้เกียจตอบและไม่ได้โมโหใคร แต่ขี้เกียจตอบ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับผมหรือใครเลยทั้งสิ้น "
เมื่อถามว่า จะมีการปรับช่องทางการสื่อสารหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้มีการบิดเบือนข้อมูล นายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างก็จะเป็นเหมือนเดิม เพราะคนที่เสนอข่าวข้อมูลก็เป็นคนเดิม โดยเฉพาะสื่อมวลชนก็ยังเป็นแบบเดิมก็ไม่สามารถแก้อะไรได้ทั้งนั้น แต่ก็ขอขอบคุณทุกคน เมื่อถามว่า ถึงวันนี้นายกฯ เหนื่อยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่เหนื่อย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการบาดเจ็บจากอาการนิ้วมือด้านขวาซ้นในวันนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ คาดว่าจะมีอาการหนักขึ้น เนื่องจากพยาบาลได้ทำการพันในลักษณะเฝือกอ่อนเต็มฝ่ามือ คาดว่ามาจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้จับเชือกโล้ชิงช้าระหว่างลงพื้นที่ รวมทั้งได้พบปะชาวบ้านมีการจับมือ ซึ่งชาวบ้านบางคนไม่ทราบว่านายกฯ มีอาการบาดเจ็บมาก่อน จึงจับแรงอย่างเต็มที่ จนบางครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับแสดงอาการบาดเจ็บให้เห็นอย่างชัดเจน พร้อมบอกว่ายังเจ็บมืออยู่