'สิริพงศ์' น้ำตาคลอลาออกชทพ. ตัดสินใจไม่คุย 'ลูกบรรหาร'

ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาศรีสะเกษ เข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อนายพิสิษฐ์​ พิทยฐากุลเจริญ นายทะเบียนพรรคแล้ว โดยมีนายภราดร ปริศนานันทกุล และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีตส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา สมาชิกกลุ่มคนรุ่นใหม่ คอยให้กำลังใจ ​เมื่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เจอกันต่างสวมกอด ขณะที่นายสิริพงศ์มีน้ำตาคลอเบ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากการยื่นใบลาออกนายสิริพงศ์​ กล่าวถึงการตัดสินใจลาออก ว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่มีความขัดแย้งหรือโกรธใดๆ ทั้งนี้ยอมรับว่าก่อนการยื่นใบลาออก ยังไม่ได้พูดคุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่ตนไม่รู้สึกโกรธ หรือรู้สึกไม่ดี อย่างไรก็ตามการตัดสินใจของตนถือเป็นภาวะลำบาก แต่เมื่อไม่พร้อมกับการทำงานภายใต้แนวทางที่ไม่ใช่ จึงขอตัดสินใจด้วยตัวเอง บนอุดมการณ์และแนวทางทางการเมืองของตัวเอง

"แม้ผมลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ยังเป็นพวกเดียวกัน ยังทำงานร่วมกันกับอดีตส.ส.ของพรรคได้เหมือนเดิม ส่วนการไปทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทยนั้น เป็นเรื่องจริง และวันที่ 30 ตุลาคมนี้จะไปยื่นใบสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อแสดงความชัดเจน เพราะผมคิดว่าการทำงานการเมืองนั้นต้องชัดเจนและตรงไปตรงมา" นายสิริพงศ์ กล่าว

นายสิริพงศ์ยังกล่าวถึง บทบาทที่จะทำให้กับพรรคภูมิใจไทย ว่าตนมี 2-3 โครงการที่อยากทำ โดยเฉพาะการผลักดันงานด้านกีฬา ที่จะใช้บุรีรัมย์โมเดลไปพัฒนางานกีฬาพื้นที่ ทั้งนี้ตนขอเสนอตัวทำคนรุ่นใหม่ให้กับพรรคภูมิใจ ส่วนการลงเลือกตั้งเป็นส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยนั้น ตนพร้อม แม้การต่อสู้ในพื้นที่กับพรรคเพื่อไทยนั้นจะยาก แต่เมื่อลงสนามแล้วต้องสู้ เปรียบเหมือนนักมวยที่ลงสนามแล้วต้องสู้กัน

ขณะที่นายภราดร กล่าวว่าตนเสียใจ แต่ยอมรับกับการตัดสินใจของนายสิริพงศ์​ เพราะเชื่อว่าคิดมาอย่างดีแล้ว ส่วนการทำงานการเมืองนั้นตนมั่นใจว่ายังสามารถทำงานร่วมกันได้ แม้จะเป็นคนละพรรค แต่เราคือพวกเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากที่นายสิริพงศ์ได้ยื่นหนังสือลาออกไม่กี่นาที นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย ฐานะผู้ชักนำนายสิริพงศ์ให้ทำงานร่วมกับพรรคได้เดินทางเข้าพรรคเพื่อมาส่งนายสิริพงศ์

ทั้งนี้นายสมศักดิ์กล่าวว่าตนเสียใจที่พรรคชาติไทยพัฒนาขาดบุคคลที่เป็นความหวังและอนาคตของพรรค แต่เมื่อนายสิริพงศ์ ตัดสินใจลาออกแล้ว ตนเคารพในการตัดสินใจดังกล่าว เพราะเข้าใจว่าการเมืองคือเรื่องของอาสาสมัคร และความสมัครใจ เมื่อใจไม่ไป ก็อยู่ยาก และอาจทำงานร่วมกันได้ยาก ทั้งนี้ผมไม่ขออวยพรให้นายสิริพงศ์เพราะเชื่อมือว่าคนเก่งอยู่ที่ไหน ย่อมทำงานได้ และประสบความสำเร็จ

“ผมเสียดายที่พรรคชาติไทยพัฒนาเสียโอกาส แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าสิริพงศ์จะอยู่ที่ไหนก็ต้องสู้ อยู่ที่ไหนก็ต้องสู้ เชื่อว่าประชาชนฉลาดว่าจะเลือกคนแบบไหนที่สามารถทำประโยชน์ให้ได้” นายสมศักดิ์ กล่าว