'อภิรัชต์' สั่งทหารสกัดกั้นยาเสพติด-อาวุธสงคราม พื้นที่ตลอดลำน้ำโขง ​​

'อภิรัชต์' สั่งทหารสกัดกั้นยาเสพติด-อาวุธสงคราม พื้นที่ตลอดลำน้ำโขง ​​

"พล.อ.อภิรัชต์" สั่งทหารสกัดกั้นยาเสพติด-อาวุธสงคราม พื้นที่ตลอดลำน้ำโขง ​​

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.61 พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่มีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานว่า พล.อ.อภิรัชต์ ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดและอาวุธสงคราม ซึ่งการสกัดกั้นและหยุดยั้งยาเสพติดไว้ที่แนวชายแดนโดยใช้กลไกของหน่วยงานด้านความมั่นคงและกองกำลังชายแดน ดำเนินมาตรการสกัดกั้นอย่างเต็มที่ในช่วง 3 เดือนจากนี้ (พ.ย.61- ม.ค.62)

"การประชุมในวันนี้เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ย้ำในพื้นที่ปฏิบัติงาน โดยระบุว่าพื้นที่ที่เป็นรอยต่อในความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน ให้มีการบูรณาการร่วมกันในทุกมิติ ทั้งข้อมูลข่าวสารและอุปกรณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ตลอดลำน้ำโขง ซึ่ง กองทัพภาคที่ 2,3และกองทัพเรือ จะร่วมกันสกัดกั้นทั้งทางบกและทางน้ำ โดยล่าสุด กองทัพบกเตรียมสนับสนุนเรือเพิ่มเติมให้กับกองกำลังชายแดน เพื่อใช้ในการลาดตระเวนและสกัดกั้นร่วมกับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) ให้ครอบคลุมพื้นที่ยิ่งขึ้น"

​รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เลขาฯคสช.ยังได้แสดงความห่วงใยในเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจค้นจับกุมยาเสพติดและอาวุธสงคราม ได้กำชับให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุปะทะกับขบวนการยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน ให้ใช้กฎการปะทะอย่างเหมาะสมตามหลักการ รวมถึงเมื่อสามารถจับกุมยาเสพติดและส่งดำเนินคดี ต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการตรวจพิสูจน์สารเสพติด และการติดตามผลความคืบหน้าทางคดีด้วย

​ถามถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาลในเรื่องการสกัดกั้นมิให้ผลผลิตทางการเกษตรจากนอกประเทศลักลอบเข้ามาจำหน่ายในไทย รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เลขาฯคสช.กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและกองกำลังชายแดน เข้มงวดในการตรวจสอบและป้องกันมิให้มีการนำผลผลิตดังกล่าวเข้ามาในประเทศทุกช่องทาง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่อยู่ในบัญชีต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักรตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ทั้งนี้เพื่อให้สินค้าเกษตรในประเทศเป็นไปตามกลไกการตลาด