“พล.อ.ประยุทธ์” มอบนโยบายการทำงานที่ปรึกษา สมช. ย้ำต้องทำงานสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ให้ชาวบ้านจับต้องได้
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวมอบนโยบาย ว่า จะต้องช่วยกันทำให้ประเทศมีความเป็นปึกแผ่น ที่ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญ โดยมาจากความมั่นคง และ ความมีเสถียรภาพ ทั้งเรื่องการเมือง และการทหาร ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจระดับประเทศด้วย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน โดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ชาติไว้ เพื่อให้การทำงานสอดรับกันทุกด้าน พร้อมกล่าวชื่นชมว่าคณะที่ปรึกษาของสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ได้รับการแต่งตั้งแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีความรู้ และมีประสบการณ์การทำงานในวิชาชีพเป็นอย่างดี ซึ่งจะสามารถสนับสนุนการทำงานด้านความมั่นคงได้เป็นอย่างดี และหวังให้คณะที่ปรึกษาฯ นำความรู้ ประสบการณ์มาสร้างความมั่นคงอย่างมีเสถียรภาพอย่างครอบคลุมในทุกมิติทั้งการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวมอบนโยบายเรื่องการทำงานว่า การทำงานด้านความมั่นคงจะต้องเรียนรู้ทำงานเพื่อขับเคลื่อนไปข้างหน้า พร้อมกับให้น้อมนำแนวพระราชดำริรัชกาลที่ 9 ในเรื่องการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาเป็นหลักในการทำงานเพื่อความยั่งยืน ให้รู้ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาให้รู้เขา รู้เรา และรู้ทันต่อเทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้โซเชียลในสังคมปัจจุบัน จะต้องสร้างภูมิต้านทานให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการใช้โซเชียลในทางที่สร้างสรรค์ พร้อมกันนี้ยังต้อง ร่วมกันสร้างความเท่าเทียมขึ้นในสังคม บนพื้นฐานของกฎหมาย ที่ทุกคนต้องเคารพ และปฏิบัติตาม
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบแนวทางการทำงานไว้ 3 ประเด็น ประกบด้วย 1.การทำงานด้านความมั่นคงต้องให้ความสำคัญกับการมองประเด็น และวิเคราะห์ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในแต่ละช่วง เวลาให้ถ่องแท้ เพื่อให้หน่วยงานด้านความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปกำหนดแผนการทำงานในเชิงรุก 2.การแต่งตั้งที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติในแต่ละด้าน จะต้องเป็นประโยชน์เมื่อมีการประชุมปรึกษาหารือกันเป็นประจำ รวมทั้งมีความทุ่มเท ศึกษา ค้นคว้าในการทำงาน โดยจัดทำข้อเสนอเรื่องต่าง ๆ ที่ชัดเจน รอบคอบซึ่งข้อเสนอต่างๆ ต้องนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นธรรม และ 3. รัฐบาลให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนการทำงานในเชิงบูรณาการที่หลายหน่วยงานต้องมีการทำงานประสานสอดคล้องกัน จึงขอให้คณะที่ปรึกษาฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ด้วย