ดาวตก

ดาวตก

SET Index วานนี้ปรับตัวลงแรง ตามทิศทางตลาดภูมิภาค ปัจจัยกดดันหลักยังคงมาจากภายนอกประเทศ

ทั้งปัญหางบประมาณของอิตาลี แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ตลอดจนราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงกว่า 4% กดดันหุ้นกลุ่ม ENERG ที่เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนดัชนี อาทิ PTT PTTEP และ IVL ส่งผลให้ SET Index ปิดที่ 1,623.37 จุด (-35.19 จุด) Volume 6.5 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  -3,975.93 ลบ. TFEX Net -11,235 สัญญาตราสารหนี้ +7,278 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมันดิบปิดบวกหลัง EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

+สหรัฐรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.8 และยอดผู้ขอสินเชื่อเพื่อการจำนองเพิ่มขึ้น 4.9%

-ดาวโจนส์ปิดร่วง 608.01 จุดเนื่องจากยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐร่วงลงติดต่อกัน 4 เดือน และเฟดเผยภาคธุรกิจของสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า

-ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐดิ่งลง 5.5% สู่ระดับ 553,000 ยูนิตซึ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี

-ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนร่วงต่ำสู่ระดับ 52.7 ซึ่งต่ำสุดรอบ 25 เดือนในต.ค.

-อิตาลีแจงไม่มีแผนสำรองเรื่องงบประมาณหลัง EU คว่ำร่างงบประมาณ

+/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 2.63 แสนล้านบาท ค่าเงินบาท 32.94 บาท/US

คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่องจากวานนี้ตามตลาดหุ้นต่างประเทศและตลาดหุ้นภูมิภาค จากความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้า และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ ขณะที่ปัจจัยบวกภายในประเทศมีน้ำหนักน้อย  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ  1,600-1,620 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

- เงินบาทอ่อนค่าสู่ 32.94 หนุนกลุ่มส่งออก CPF SVI XO KCE

- หุ้น Theme EEC play : AMATA, WHA, EASTW, ATP30, ORI

- หุ้นที่คาดว่า 2H61 จะเติบโตต่อเนื่อง ANAN ORI SC KCE CPF SVI

- หุ้น MAI ที่ผลประกอบการ 2H61 เติบโตต่อเนื่อง XO CHAYO TACC SSP AUCT

หุ้นแนะนำพิเศษ

KTB ราคาปิด 19.60 บาท Bloomberg Consensus 21.7 บาท

  • 3Q61 มีกำไรสุทธิ 7,838 ลบ. +33%YoY+2%QoQ จากคชจ.สำรองหนี้สูญลดลง 39%YoY งวด 9M61 กำไร 22,333 ลบ.+27% สินเชื่อปลายก.ย.61 +2.2%YTD จากสินเชื่อภาครัฐขยายตัว และสินเชื่อรายย่อยเติบโต %NPL ลดเหลือ 4.42% จาก 4.52% ในไตรมาสก่อนหน้า Coverage Ratio 123% ใกล้เคียงกับปลายปี 60 ที่ 122%
  • การที่ AQ ขายทอดตลาดที่ดิน 4,315 ไร่ที่เป็นหลักประกันหนี้ได้ในราคา 8.9 พันล้านบาท คาดทำสัญญาโอนสิทธิภายใน 1 ก.พ. 2562 เป็นข่าวดีที่ KTB จะได้รับชำระคืนหนี้ส่วนที่เหลือ 8.3 พันล้านบาทที่ได้ตั้งสำรองหนี้สูญไปเพียง 50% ของมูลหนี้ทั้งหมด และไม่ได้ตัดจำหน่ายหนี้สูญไปทั้งหมด เป็นอัพไซต์จากกำไรปกติสำหรับปี 62 และเสริมความแข็งแกร่งของคุณภาพสินทรัพย์จากที่คาดว่า KTB น่าจะตั้งสำรองส่วนเกินเพิ่มขึ้นเพื่อดึงให้ Coverage Ratio ขยับขึ้นมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยที่ระดับ 140%
  • ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวของ KTB ในฐานะที่เป็นแบงก์รัฐ การที่ภาครัฐทยอยเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่จะมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณผ่าน KTB ช่วยสนับสนุนสินเชื่อภาครัฐของ KTB ให้เร่งตัวขึ้นในปีหน้า การถือหุ้นระยะยาวมี yield เฉลี่ย 4% สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่

หุ้นมีข่าว   

·      DCC บอร์ดไฟเขียวซื้อหุ้น RCI ผ่านตลาดหลักทรัพย์ คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 4% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ RCI ในราคาไม่เกินหุ้นละ 4 บาท โดยรวมเป็นมูลค่าการซื้อทั้งสิ้นไม่เกิน 100.0 ล้านบาท

·      SCC (ราคาปิด 408 Bloomberg Consensus 497.37)  แจ้งว่า Q3/61 มีรายได้จากการขาย 122,518 ล้านบาท +9%YoY จากทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไร 9,473 ล้านบาท -20%YoY จากขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ และส่วนต่างราคาที่ลดลงของธุรกิจเคมิคอลส์ งวด 9M61 มีรายได้จากการขาย 361,215 ล้านบาท +7%YoY มีกำไร 34,281 ล้านบาท -19%YoY
ความเห็น กำไร 9M61คิดเป็น 71% ของคาดการณ์ Bloomberg Consensus เฉลี่ยที่ 48,336 ล้านบาท ซึ่งลดลง 12%

·      PTTEP Bloomberg คาด ประกาศงบ 3Q61 วันนี้ที่ 11.6 หมื่นล้านบาท +224%QoQ

·      ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา กรมทางหลวง ลงทุนมอเตอร์เวย์กว่า 2.5 แสนลบ.ใน 4-5 ปี ช่วยลดความแออัดการจราจรพื้นที่ชั้นใน

·      UTP ปฎิเสธข่าวซื้อกิจการโรงงานกล่องกระดาษ ยังคงทำธุรกิจผลิตกระดาษคราฟท์สำหรับอุตฯกล่องกระดาษเท่านั้น

·      + BANPU ถ่านหินมีแนวโน้มทะยานสูงเกิน 100 ดอลลาร์ ต่อเนื่อง 3 ปี เหตุดีมานด์ยังพุ่ง ขณะที่ผู้เล่นตกเป็นของรายใหญ่ ผู้บริหาร BANPU สบช่องชี้เหมืองถ่านหินใกล้เคียงแถมเดินหน้าลุยธุรกิจก๊าซสหรัฐหลังราคามีโอกาสเพิ่มแตะ 3.03 ดอลลาร์ ขณะที่บาทอ่อนส่งผลดี (ที่มา ทันหุ้น)

·      + SAMART แจ้งตลท.ว่าได้ลงนามกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อบันทึกข้อตกลงความร่วมมือนำร่องการพัฒนาคุณภาพการให้บริการโครงการคัดกรอง ตรวจสอบเอกสารล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกสสำหรับผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา E-VISA ON ARRIVAL (E-VOA) โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป และสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 3 ปี1

·      PSH (ราคาปิด 20.10 Bloomberg Consensus 23.52) แง้มงบ Q3 เด้ง เหตุโอนคอนโดมิเนียมได้ตามแผน มั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุเป้า 53,700 ล้านบาท เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ ล่าสุดเตรียมเปิดขายโครงการ เดอะ ทรี หัวหมาก มูลค่า 2,000 ล้านบาท คาดปิดการขายภายในปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)