'บิ๊กโจ๊ก' โชว์รวบหนุ่มฝรั่งเศส ปลอมหนังสือเดินทางโผล่เที่ยวเกาะสมุย

'บิ๊กโจ๊ก' โชว์รวบหนุ่มฝรั่งเศส ปลอมหนังสือเดินทางโผล่เที่ยวเกาะสมุย

"บิ๊กโจ๊ก" แถลงรวบหนุ่มฝรั่งเศส ถูกขึ้นแบล็คลิสต์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าไทย แอบใช้ชื่อพี่ชาย ปลอมหนังสือเดินทางเที่ยวเกาะสมุย

เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 24 ต.ค.2561 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.สตม.) แถลงข่าวการจับกุม นายสเตฟาน ฮันรี่บัค บาโบติน (Stephane Hellebuyck Barbotin) อายุ 42 ปี สัญชาติฝรั่งเศส หลังกวาดล้างชาวต่างชาติที่อยู่เกินกฏหมายกำหนดทั่วประเทศ ในรูปแบบการเอ็กซ์เรย์ (X-Ray) พื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันชาวต่างชาติ เข้ามาก่อเหตุในราชอาณาจักรไทย รวมถึงหลบหนีคดีมาซ่อนตัวในประเทศไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ตรวจพบนายสเตฟาน ในพื้นที่เกาะสมุย และจำได้ว่าเป็นบุคคลที่เคยจับกุมตัวในข้ออยู่เกินกำหนดอนุญาต (over stay) เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2561 และส่งตัวกลับออกนอกราชอาณาจักร รวมถึงยังได้ถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงตรวจสอบหนังสือเดินทาง พบว่า ข้อมูลในหนังสือเดินทางปรากฎเป็นชื่อ นายเดวิด เบอร์นาด บาโบติน (David Bernard Barbotin) สัญชาติฝรั่งเศส แต่ภาพใบหน้าในหนังสือเดินทางเป็นภาพใบหน้าของนายสเตฟาน วันเดือนปีเกิดในหนังสือเดินทาง ก็ไม่ตรงกับข้อมูลเดิมที่ได้เคยขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศเอาไว้ ดังนั้น จึงไม่สามารถตรวจสอบพบได้ในขณะที่เดินทางเข้าประเทศ

“ทั้งนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการประสานไปยังสถานฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ให้ตรวจสอบหนังสือเดินทางดังกล่าว และพบว่าเป็นหนังสือเดินทางที่ออกโดยทางการฝรั่งเศสจริง แต่เมื่อตรวจสอบในเชิงลึก พบว่านายสเตฟาน ได้นำหลักฐานใบสูติบัตรของพี่ชายคือ นายเดวิด มายื่นเรื่องทำหนังสือเดินทาง ซึ่งเป็นความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เพิกถอนวีซ่า เนื่องจากเป็นบุคคลคนเดียวกับที่ถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามเข้าประเทศไทย ดังนั้น จึงได้ควบคุมตัวเพื่อผลักดันส่งกลับไปยังประเทศต้นทางต่อไป” รรท.ผบช.สตม. กล่าว

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนการส่งกลับนายสเตฟานเรียบร้อยแล้ว ทางการฝรั่งเศสจะได้พิจารณาดำเนินคดีกับนายสเตฟานต่อไป และจะขยายผลว่า มีผู้ร่วมขบวนการทำหนังสือเดินทางปลอม โดยการแจ้งข้อมูลเท็จในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ โดยการดำเนินการควบคุมตัวนายสเตฟาน ได้ในครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ ของไทยกับฝรั่งเศส กับอาชญากรที่คิดค้นรูปแบบวิธีการใหม่ๆในการหลบเลี่ยงกฎหมาย