“SCB” พลิกเกม “SCB EASY” สู้ศึกปีหน้า

นายธนา เธียรอัจริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยว่า  หลังธนาคารยกเครื่อง SCB EASY ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ล่าสุดธนาคารทุ่มงบพัฒนา 10 กว่าล้านบาท รุกทำการตลาดรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด “โมเมนต์แบงก์กิ้ง” เพื่อมอบบริการทางการเงินให้ตรงกับทุกช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง ผ่านการเรียนรู้ข้อมูล Transactional Lifestyle จับอินไซต์ในทุกไมโครโมเมนต์ (Micro Moment) ของลูกค้า 

ด้วย 20 ฟีเจอร์เด่น ที่เกิดจากการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลจาก Big Data พร้อมให้บริการในไตรมาส 2 ปี2562 เช่น บริการเปิด-ปิดบัตรเครดิตได้ด้วยตนเอง บริการขอสเตทเมนต์ย้อนหลัง 1 ปี บริการโอนเงินได้สูงสุด 10 รายการพร้อมกัน บริการจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ได้ทุกที่ทั่วโลก บริการเติมเงินบัตรทางด่วนได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นต้น  พร้อมด้าน “สินเชื่อดิจิทัล” (Digital Lending) ที่ครอบคลุมความต้องการในทุกรูปแบบของลูกค้า และให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทุกที่ทุกเวลา 

นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ 50 ฟีเจอร์ จากทั้งหมด155 ฟีเจอร์ ภายในปี2562 อาทิ เช็คประวัติทุกรายการชำระเงินกู้ได้ทุกงวดทันที สมุดบัญชีดิจิทัลในมือถือ (E Passbook) ออกสลิปใหม่ได้เองทันที (Slip Regeneration)  ขอและรับเอกสารทางการเงินในมือถือได้ทันที กดเงินสดจากยอดวงเงินคงเหลือในบัตรเครดิตที่ตู้เอทีเอ็มได้เลยทันที เป็นต้น

ธนาคารตั้งเป้าหมายแนวคิดทางการตลาดดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้เกิดการทำธุรกรรมทั้งหมดบนแอพฯ เป็นการทำธุรกรรมแบบไม่ใช่เงินสด (Non-cash transaction) อยู่ที่ 99% ภายใน 6 เดือนหลังจากนี้  เพื่อตอบสนองแนวคิดบริการธนาคารจะอยู่ทุกที่ยกเว้นที่ธนาคาร 

ธนาคารมั่นใจว่า สิ้นปี 2561 จะมีฐานผู้ใช้งาน SCB EASY ที่ 10 ล้านราย  และ 12.5 ล้านราย ในปี2562 เพื่อมุ่งสู่ การเป็นดิจิทัลฟูลฟิลเมนต์แพลตฟอร์มอย่างแท้จริง อีกทั้งคาดว่ามียอดสมัครสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอพฯ กว่า 800,000 รายและมียอดการอนุมัติสินเชื่อ 7,000 ล้านบาท ในปีนี้และในปี2562 ทะลุ10,000 ล้านบาท  

จากปัจจุบัน SCB EASY มียอดผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านราย เป็นลูกค้าใหม่ตั้งแต่ยกเครื่องปีที่แล้วกว่า 4.3 ล้านราย มีลูกค้าเข้าใช้ SCB EASY กว่า 2,000 ล้านครั้ง ทำธุรกรรมโอนเติมจ่ายไปกว่า 590 ล้านครั้ง  กดเงินไม่ใช้บัตรกว่า 38 ล้านครั้ง จองบัตรชมภาพยนตร์กว่า 300,000 ใบ รวมถึงขอสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอพฯ กว่า 486,000 ราย มียอดการอนุมัติสินเชื่อ 4,700 ล้านบาท คิดเป็นยอดอนุมัติ20-30% 

นายธนา  กล่าวด้วยว่า ในปีหน้าสงครามดิจิทัลแบงก์กิ้ง เรื่องแข่งขันการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยสินเชื่อดิจิทัล จะแข่งขันรุนแรงมากขึ้น  ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ธนาคารเตรียมเปิดต้วทีมเท็นเอ็กซ์ (10X) พร้อมมีพูดถึงแผนงานรุกสินเชื่อดิจิทัลเต็มรูปแบบในปีหน้า เพื่อเข้ามาปิดช่องว่างสู้ศึกกับฟินเทคและนอนแบงก์ที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ รวมถึงหลายแบงก์กำลังเข้ามาทำเรื่องนี้เช่นกัน หวังว่าทีมเท็นเอ็กซ์ สามารถสร้างการเติบโตสินเชื่อดิจิทัลผ่านแอพฯ (สินเชื่อไม่มีหลักประกัน) ทั้งทางด้านสินเชื่อและรายได้ เติบโต10เท่าในอนาคต รวมถึงการใช้AIและBigdata มาประเมินเครดิตสกอริ่งในการให้สินเชื่อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ได้มากขึ้นเช่น การรักษาพยาบาล ท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย และทำให้แนวโน้มหนี้เสียมีโอกาสลดลงได้จากปัจจุบันมีบางยังไม่มีนัยสำคัญ

“โมเมนต์ของลูกค้าไม่ใช่โปรดักส์อีกต่อไปแต่จะเป็นประสบการณ์  ทำให้เราต้องเปลี่ยนโมบายแบงก์กิ้งให้เป็นประสบการณ์ หรือโมเมนต์แบงก์กิ้ง ที่สามารถตอบสนองลูกค้าได้มากกว่าแค่ลูกค้าของธนาคารทั้งหมดที่มีอยู่ 15 ล้านบัญชี”