อธิบดีคุกยัน 'บุญทรง' ป่วยจริงรอผ่าตัดกระดูกหลัง

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.61 พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการคุมขังนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งต้องโทษจำคุก 42 ปี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ว่า ขณะนี้เรือนจำกลางคลองเปรมได้ส่งตัวนายบุญทรงมาควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เนื่องจากนายบุญทรงป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และต้องนั่งรถเข็น แต่เรือนจำไม่มีแพทย์และเครื่องมือเฉพาะทางที่จะรักษาอาการป่วยของนายบุญทรง ที่ผ่านมาจึงได้ตัวนายบุญทรงออกไปตรวจรักษาอาการป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ตามหนังสือขอตัวจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ

เมื่อตรวจรักษาเสร็จเรือนจำได้นำตัวนายบุญทรงกลับมาควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามเดิม และในเร็วๆนี้ทัณฑสถานโรงพยาบาลต้องส่งตัวนายบุญทรงออกไปผ่าตัดกระดูกสันหลังหรือกระดูกต้นคอที่โรงพยาบาลตำรวจ ตามหนังสือขอตัวคนไข้จากโรงพยาบาลตำรวจ เรื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลไม่มีห้องผ่าตัดและเครื่องมือผ่าตัด ทั้งนี้ในการส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาพยาบาลภายนอกต้องมีผู้คุมติดตามไปควบคุมตัว 2 คน ในกรณีที่ต้องพักค้างในโรงพยาบาลภายนอก ต้องมีผู้คุมผลัดละ 2 คน เข้าเวรควบคุมตัวผู้ต้องขังตลอด 24 ชั่วโมง

"การส่งตัวนายบุญทรงมาควบคุมไว้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาล รวมถึงการส่งตัวออกไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกเป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์. ยืนยันว่านายบุญทรงป่วยจริง และในการส่งตัวออกไปรักษาพยาบาลก็มีเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวอยู่ตลอด จึงไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีใครเข้ามาติดต่อหรือเจรจาให้ซัดทอดบุคคลอื่น"อธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าว

ก่อนหน้านี้นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรียกร้องไม่ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองก่อนการเลือกตั้ง พร้อมระบุว่าที่ผ่านมามีการต่อรองไปยังจำเลยหลายรายในเรือนจำโดยจูงใจด้วยการให้สิทธิประโยชน์ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ แต่จะให้อยู่ในโรงพยาบาลแทน เพื่อให้การซัดทอดถึงนายทักษิณ ชินวัตร และเครือญาติ

สำหรับนายบุญทรงได้ถูกนำตัวเข้าคุมขังในเรือนจำกลางคลองเปรมตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 โดยการคุมขังในวันแรกนายบุญทรงมีความเครียดและปวดศรีษะมาก เป็นผลให้ความดันโลหิตในช่วงแรกรับสูงถึง 170/90 และยังป่วยเป็นโรคภูมิแพ้อีกด้วย ทำให้ในช่วงสัปดาห์แรกๆของการคุมขังนายบุญทรงต้องเข้ารับการตรวจรักษาอาการป่วยจากแพทย์ของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์บ่อยครั้ง จนกระทั่งมีอาการป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก และต้องส่งตัวออกไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยให้นายบุญทรงเข้ารับการผ่าตัด