รบ.สั่งดูแลราคาสินค้า หลังราคาน้ำมันพุ่ง

รบ.สั่งดูแลราคาสินค้า หลังราคาน้ำมันพุ่ง

รัฐบาลสั่งดูแลราคาสินค้า หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ด้าน “พาณิชย์” ให้กรมการค้าภายใน วิเคราะห์กระทบราคาสินค้าแล้ว พร้อมประชุมพาณิชย์จังหวัด 26 ต.ค.นี้

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า และราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในขณะนี้ที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกรงว่า อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้า ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาสินค้าอาจต้องปรับขึ้นตามไปด้วย ส่วนสินค้าเกษตร ต้องดูแลให้เกษตรกรขายสินค้าได้ในราคาที่เป็นธรรม และเหมาะสม พร้อมกันนั้น ได้สั่งการให้ประชุมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อกำชับให้ดูแลราคาสินค้า และราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่ด้วย

”ขณะนี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมการค้าภายใน ต้องทำงานเชิงรุก เตรียมทำแผนรับมือราคาสินค้าไว้ล่วงหน้า ต้องไม่ให้มีการฉวยโอกาส หรือลักลอบขึ้นราคาขาย เพราะชาวบ้านจะเดือดร้อน และต้องรีบประชุมพาณิชย์จังหวัด ซึ่งนอกจะให้เข้มงวดดูแลราคาสินค้าแล้ว ยังต้องให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย และเศรษฐกิจ การค้า รวมถึงการท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัดด้วย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากได้”

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เร่งวิเคราะห์ผลกระทบของการปรับขึ้นราคาขายน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ ที่อาจมีผลกระทบต่อราคาสินค้า และให้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

ส่วนในเรื่องสินค้าเกษตรนั้น วันที่ 25 ต.ค.นี้ จะประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร ทั้งกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดแผนการทำงานเกี่ยวกับสินค้าเกษตร ทั้งแผนงานด้านการตลาดในประเทศ ต่างประเทศ รวมถึงการเจรจาแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ เพื่อให้การวางแผนบริหารจัดการสินค้าเกษตรครบวงจร และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ วันที่ 26 ต.ค.นี้ จะประชุมทางไกลผ่านวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ กับพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เร่งรัดผลักดันการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เดินหน้าได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้

พาณิชย์จังหวัดถือเป็นมือไม้สำคัญของกระทรวงพาณิชย์ในส่วนภูมิภาค จึงจะต้องกำชับให้เร่งรัดขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ให้เดินหน้าได้ โดยเฉพาะเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งต้องทำทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่่าย และดูแลสถานการณ์ราคาสินค้า ไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ และดูแลราคาสินค้าเกษตร ให้เกษตรกรขายสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม และเป็นธรรม

ขณะที่นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น เบื้องต้น พบว่า หากราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท จะทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้น 0.0002-0.0085% โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบต่ำสุดคือ ถุงพลาสติก เพราะมีน้ำหนักการบรรทุกน้อย และใช้พื้นที่ในการขนส่งน้อย ส่วนสินค้าที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ปูนซีเมนต์ เพราะมีน้ำหนักในการบรรทุกมาก และใช้พื้นที่ในการบรรทุกมาก

“ผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้หมายความว่า ราคาสินค้าจะต้องปรับขึ้นตามไปด้วย ซึ่ง ราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้นน้อยมาก และไม่มีนัยสำคัญทำให้ราคาขายสินค้าต้องปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม กรมฯจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาขายเอาเปรียบประชาชน แต่หากประชาชนพบเห็นการเอาเอารัดเอาเปรียบ ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมฯโทร.1569 จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ ถ้าพบผิดจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ”