'อภิสิทธิ์' ลั่นปชป.ไม่ร่วม 'พลังประชารัฐ' หากยังยึดนโยบายเดิม

'อภิสิทธิ์' ลั่นปชป.ไม่ร่วม 'พลังประชารัฐ' หากยังยึดนโยบายเดิม

"อภิสิทธิ์" ลั่นปชป.ไม่ร่วม "พลังประชารัฐ" หากยังยึดนโยบายเดิม – ศก.แบบเก่า เชื่อดีเบตหัวหน้าพรรคไม่มีขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 23 ต.ค.61 ที่พระลานพระราชวังดุสิต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหยั่งเสียงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จาก 5 วัน เหลือ 3 วัน ว่า ความจริงกำหนดการเดิม 1-5 พ.ย.นี้ แต่อาจเป็นเรื่องเทคนิคการลงคะแนนผ่านแอพพลิเคชั่น จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบหากมีความผิดปกติเกิดขึ้น แต่การละคะแนนผ่านหน่วยเลือกตั้งวันเดียวอาจไม่พอ ทั้งนี้เชื่อว่าการหยั่งเสียงไม่น่าจะมีปัญหา แต่ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกได้เข้าใจเกี่ยวกับการลงคะแนน อย่างไรก็ตามเวลา 3 วันนั้นถือว่าเพียงพอ นอกจากนี้การดีเบตหัวน้าพรรคนั้น ทราบว่าจะเป็นช่วงเย็นของวันที่ 26 ต.ค.นี้ โดยยืนยันการดีเบตไม่มีการโต้เถียงหรือโจมตีกัน ส่วนที่มีบางคนหาเสียงว่า หากเลือกตนเองพรรคก็จะไม่มีการบอยคอตการเลือกตั้งนั้นก็ถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละคนที่จะพูดว่ามีความเห็นอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ว่าที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ระบุว่าพร้อมร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง ว่า เรื่องนี้อยู่ที่นโยบาย ซึ่งต้องมาคุยกันไม่ใช่จะมาเป็นรัฐบาลแล้วไปจับมือใครก็ได้ ถ้าพรรคการเมืองเป็นแบบนี้แล้วประชาชนจะได้อะไร และจะมาพัฒนาบ้านเมืองอย่างไร ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐหากจะร่วมมือกับประชาธิปัตย์ ต้องมาคุยว่านโยบายคืออะไร แต่ถ้าวันนี้ยังยึดการบริหารประเทศแบบรวมศูนย์ ไม่ทำให้เศรษฐกิจกระจายไปก็คงทำงานร่วมกันยากและคงต้องไปปรับท่าทีอีกมาก ดังนั้นหากยังชูนโยบายแบบเดิมไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิด ก็จะทำให้ประชาชนเดือดร้อน และเป็นปัญหา เช่น กฎหมายประมง ที่ทำให้อุตสาหกรรมประมงมีปัญหาจำนวนมาก ทั้งที่ความจริงการแก้ปัญหาสามารถทำความเข้าใจกับประชาชนมากกว่านี้ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ที่ต้องมาคุยกัน

"ผมย้ำทุกครั้งว่า ถ้าเป็นหัวหน้าพรรคผมจะไม่เอาประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลที่ต้องไปทำงานขัดกับสิ่งที่เป็นนโยบายที่เคยพูดกับประชาชนไว้ ถ้ายาง ปาล์ม ประมง ยังเป็นแบบนี้แล้วประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาล ผมไม่สามารถตอบคำถามผู้สนับสนุนและประชาชนได้ ว่าทำไมผมถึงไปเป็นรัฐบาลแล้วยังบริหารยาง ปาล์ม ประมงเป็นแบบนี้" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามถึง กรณีที่เคยระบุว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับท่าทีก็พร้อมร่วมรัฐบาลด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมพูดตอนไหนและเขาปรับหรือยัง ประเด็นของผมที่พยายามสื่อสารกับประชาชนคือ ถ้าเราเริ่มต้นการเมืองด้วยการตั้งข้อรังเกียจ ไม่ดูที่มาที่ไปและจุดยืนของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นการที่นำคำพูดผมไปแปลความเช่นนั้นมันไม่ใช่ วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการที่จะเป็นทางหลักของประเทศ จึงไม่ต้องมาถามว่าจะไปสนับสนุนใครหรือไม่ แต่พรรคจะเสนอทางเลือกให้ประเทศเป็นทางหลัก ถ้าประชาชนสนับสนุนเราก็จะไปถามคนอื่นว่าจะมาร่วมกับเราหรือไม่ ดังนั้นหากผมจะร่วมกับใครก็ต้องดูวิธีการทำงาน จุดยืน และนโยบาย ไม่เช่นนั้นการเมืองก็ไม่พัฒนา อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าตกลงสถานะท่านจะเอาอย่างไร แต่ถ้าเป็นคนนอกก็ยากที่จะพรรคประชาธิปัตย์จะยกมือสนับสนุน แต่หากอยู่ในบัญชีพรรคก็ต้องดูว่าเป็นพรรคไหนและพรรคนั้นทำงานอย่างไร"

เมื่อถามย้ำว่า หากจุดยืนและนโยบายของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐยังเป็นแบบเดิม จะร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ถ้ายืนยันบริหารเศรษฐกิจแบบนี้ ผมว่าประชาธิปัตย์คงไม่ร่วมด้วยเพราะไม่ตอบโจทย์ประชาชนเลย บางเรื่องโครงสร้างพื้นฐานบางโครงการดี แต่หลายอย่างกลับไม่สนใจประชาชนระดับล่าง ดังนั้นไม่ใช่ชอบพอกันแล้วไปร่วมกันได้เลย แต่ประชาชนไม่ได้อะไร