หุ้นกลุ่ม“พลังงาน-แบงก์”ร่วงฉุดดาวโจนส์ลบกว่า100จุด
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์ (22ต.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวร่วงลงกว่า100 จุด เพราะถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์ ขณะปัญหาตึงเครียดทางการเมืองในยุโรปส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอริงของอังกฤษ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 126.93 จุดหรือ 0.5% ปิดที่ 25,317.41 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 11.9 จุดหรือ 0.43% ปิดที่ 2,755.88 จุด และดัชนีแนสแด็ก บวก 19.60 จุดหรือ 0.26% ปิดที่ 7,468.63 จุด
อย่างไรก็ตาม ช่วงเปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวก อานิสงส์จากตลาดหุ้นจีนปิดตลาดทะยาน 4.09% เนื่องจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนประกาศสนับสนุนภาคเอกชนของจีน ส่งผลให้หุ้นกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจในจีนปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอิตาลี
นายลุยจี ดี ไมโอ รองนายกรัฐมนตรีอิตาลีเปิดเผยว่า รัฐบาลอิตาลีมีความพร้อมที่จะหารือกับสหภาพยุโรป (อียู) พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแผนที่จะถอนตัวจากสหภาพยุโรปขณะที่อียูเรียกร้องให้อิตาลีชี้แจงเรื่องยอดขาดดุลงบประมาณอย่างละเอียด
การสนับสนุนภาคเอกชนของผู้นำจีน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินเยน โดยในช่วงเย็นของวันจันทร์ ดอลลาร์แข็งค่าแตะกรอบบนของ 112 เยน เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในสินทรัพย์เสี่ยงเมื่อเทียบกับเงินเยน