กกต.ทยอยรับรองการจัดตั้ง 15 พรรคการเมือง ค้างการพิจารณาอีก 15 พรรค ล่าสุด "พรรครวมพลังประชาชาติไทย" เป็นพรรคการเมืองแล้ว ส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.คืบหน้า 15 จว. คาดแล้วเสร็จตามเป้า 10 พ.ย.นี้
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) -22 ต.ค.61. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. เปิดเผยภายหลังการประชุมกกต.ว่าที่ประชุมกกต.เห็นชอบให้นายทะเบียนพรรคการเมืองลงนามรับรองการขอจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มีม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นหัวหน้าพรรค พรรคเพื่อคนไทย ที่มีนายวิทยา อินาสา เป็นหัวหน้าพรรค พรรคสยามพัฒนา ที่มีนายบุญส่ง เกิดหลำ เป็นหัวหน้าพรรค และพรรคพลังปวงชนไทย ที่มีนายนิคม บุญวิเศษ เป็นหัวหน้าพรรค ให้เป็นพรรคการเมืองแล้ว หลังตรวจสอบแล้วว่าเอกสารหลักฐานต่างๆ ในการยื่นขอจัดตั้งพรรคครบถ้วน ซึ่งทางสำนักงาน กกต.ก็จะได้นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
เลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า ในการประชุม กกต.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต.ก็ได้เห็นชอบให้นายทะเบียนพรรคการเมืองลงนามรับรองการขอจัดตั้งพรรคเพื่อนไทย ที่มีนายสิระ พิมพ์กลาง เป็นหัวหน้าพรรค และพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่มีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นพรรคการเมือง และอยู่ระหว่างประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทำให้ขณะนี้นายทะเบียนพรคการเมืองได้รับรองพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นตามพ.ร.ป..ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 รวมแล้ว 15 พรรคการเมือง คงเหลืออีก 15 พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กกต.ได้เริ่มพิจารณาคัดเลือกรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งที่เหมาะสมที่สุด หลังจากที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั้ง 77 จังหวัดได้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 3 รูปแบบต่อ1 เขตเลือกตั้งและได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่และตัวแทนพรรคการเมืองพร้อมกับส่งข้อมูลทั้งหมดมาให้กกต.พิจารณาเพื่อคัดเลือกโดยกกต.ได้พิจารณาไปเสร็จแล้ว 15 จังหวัด และจะเร่งพิจารณาในส่วนที่เหลือให้เสร็จก่อนจะประกาศผลการแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษา โดยคาดว่าจะเสร็จได้ภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ตามแผนปฏิบัติการที่วางไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 23-24 ต.ค.นี้ เป็นโค้งสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนองค์กรที่จะมีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัครส.ว.จึงอยากให้องค์กรที่ประสงค์จะลงทะเบียนเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆให้ครบถ้วนเพื่อ จะได้ไม่มีปัญหาในการยื่นลงทะเบียน และอยากจะให้มายื่นลงทะเบียนกันมากๆเพื่อที่จะได้มีผู้สมัครส.ว.ที่มีความรู้ความสามารถและมีความหลากหลายมาเป็นส.ว.