เก๋งชนประสานงา นศ.แพทย์-ดญ.ดับรวม5ศพ หมอกลงจัดมองไม่เห็น

เก๋งชนประสานงา นศ.แพทย์-ดญ.ดับรวม5ศพ หมอกลงจัดมองไม่เห็น

สลดเช้ามืด ดับ5ศพเก๋งชนประสานงา พบศพนศ.แพทย์และอีกคันเสียชีวิตยกครัว4ศพ คาดหมอกลงจัดมองไม่เห็น เร่งกู้ซากหวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

วันที่ 22 ตุลาคม 2561 เวลา 06.30 น. ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ จันทรง ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน ว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนนสาย 226 ศรีสะเกษ - อุบลราชธานี ซึ่งเป็นถนน 4 เลน แต่ไม่มีเกาะกลางถนนปิดกั้นการจราจรทั้งสองฝั่ง เหตุเกิดบริเวณหน้าสำนักงานการไฟฟ้ากันทรารมย์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนที่จะเร่งออกไปดูแลตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า อัลติส สีเทา ทะเบียน กน-9189 อุบลราชธานี จอดอยู่กึ่งบริเวณเกาะกลางถนน หันหัวคล้ายจะมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองศรีสะเกษ สภาพหน้ารถพังยับเยิน ภายในพบศพ ทราบชื่อภายหลัง นายพศวัต วรรณภาสนี อายุ 22 ปี พบบัตรนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นคนขับรถตรวจสอบชีพจรไม่เต้นเชื่อเสียชีวิตแล้ว และยังพบว่ารถยนต์เก๋งมาชนรถจักรยานยนต์ที่ขับอยู่ข้างทางอีก 1 คัน ที่ไม่มีติดแผ่นป้ายทะเบียน

ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กค-8290 สุรินทร์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน และยังพบสภาพพังยับเยินเป็นแนวยาวมาถึงข้างรถยนต์เก๋ง และยังพบมีผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายใน จำนวน 5 คน ซึ่งเบื้องต้นตรวจชีพจรไม่เต้นเชื่อเสียชีวิตเช่นกันอีก จำนวน 4 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นางกิ่งกาญจน์ วงศ์ฉลาด อายุ 60 ปี เป็นคนขับ, น.ส.เอกฤทัย วงศ์ฉลาด อายุ 32 ปี, นางอุษนี สิมรัมย์ อายุ 51 ปี, และด.ญ.ณกมล วงศ์ฉลาด อายุ 10 ปี เสียชีวิตทั้งหมด 4 คน ทราบว่าทั้งหมดเป็นชาวอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ และในที่เกิดเหตุยังพบมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ อีก 1 คน ไม่ทราบมากับรถยนต์คันใด ไม่พกบัตร ไม่ทราบชื่อ ที่อยู่แต่อย่างใด โดยได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งรักษาที่ รพ.กันทรารมย์ เป็นการเร่งด่วน แต่อาหารสาหัส จึงได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ ยังไม่ทราบอาการคืบหน้า

จากการสอบถามผู้ที่พบเห็นเบื้องต้น ทราบว่า รถยนต์เก๋งทั้งสองคัน วิ่งมาด้วยความเร็วสูงทั้งสองคัน พอมาถึงที่เกิดเหตุ จากสภาพอากาศในช่วงเช้าตอนนี้ จะพบว่ามีเมฆหมอกลงหนาจัดเป็นช่วงๆ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า รถยนต์เก๋งทั้งสองคันไม่ทันระวัง และมองทัศนะวิสัยด้านหน้าไม่ชัด ในขณะขับมาถึงจุดเกิดเหตุ จึงเกิดการชนประสานกันอย่างแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 5 ศพ และบาดเจ็บสาหัว 1 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จำได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุ เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป