'บิ๊กแดง' กำชับ ทหาร-ตร. เข้มสกัดยาเสพติด ย้ำต้องไม่ให้เข้ามาในประเทศ

'บิ๊กแดง' กำชับ ทหาร-ตร. เข้มสกัดยาเสพติด ย้ำต้องไม่ให้เข้ามาในประเทศ

"บิ๊กแดง" กำชับ "ทหาร-ตำรวจ" เข้มมาตราการสกัดยาเสพติด ย้ำต้องไม่ให้เข้ามาในประเทศ พร้อมให้ทุกหน่วยใช้กลไก “ศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่” เดินเข้าหาประชาชน รับฟังแก้ไขทุกความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2561 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผย ผล​​การประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นการประชุมด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม เชื่อมต่อระหว่าง กองบัญชาการกองทัพบก กับ กอ.รมน.ภาค 4 สน. จังหวัดปัตตานี โดยมี พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธาน โดยได้ย้ำในนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในเรื่องยาเสพติด ที่ทุกส่วนงานจะต้องเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ เลขา ฯคสช. เคยได้ประกาศเจตนารมณ์ไว้แล้วในการขจัดยาเสพติดและอาวุธสงคราม จึงได้สั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และกองทัพภาค ร่วมกันใช้มาตรการสกัดกั้นอย่างเข้มข้น ปิดทุกช่องทางในพื้นที่ชายแดน ป้องกันมิให้ยาเสพติดจากภายนอกเข้าสู่ประเทศไทยในทุกช่องทาง รวมถึงการตรวจสอบอาวุธสงครามควบคู่กันไปด้วย สำหรับมาตรการที่ทุกพื้นที่จะต้องเร่งดำเนินการคือ การจัดตั้งด่านตรวจที่เข้มแข็ง เพิ่มการลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดน การตั้งจุดสกัดเป็นการเฉพาะในพื้นที่เฝ้าระวัง พร้อมรายงานผลการปฏิบัติในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ เพื่อนำไปสู่ประเมินสถานการณ์ต่อไป

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า พล.อ. อภิรัชต์ ยังได้แสดงความห่วงใยการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ด้วยกลไกของศูนย์ดำรงธรรม โดยมุ่งหวังให้การทำงานเป็นไปในลักษณะ “การเดินเข้าหาประชาชน” เพื่อรับฟังความเดือดร้อนและนำไปสู่การแก้ไขด้วยกลไกแบบบูรณาการ พร้อมมอบหมายให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ร่วมกับ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และจิตอาสา ร่วมกันทำงานในลักษณะ “ศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่” เข้าไปรับฟังคลี่คลายและแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยให้ กกล.รส. เป็นแกนกลางในการจัดทำแผนงานในการลงพื้นที่ร่วมกันของหน่วยงานดังกล่าวให้มีความต่อเนื่องเพื่อให้ ปชช.มีความมั่นใจและมีช่องทางที่จะได้ระบายความเดือดร้อน ให้หน่วยงานภาครัฐเข้าช่วยดูแลแก้ไข โดยเร่งด่วนต่อไป