ชูโครงการ 'คลองไทย' ขอเสียงหนุนเป็นหน.พรรคประชาธิปัตย์

ชูโครงการ 'คลองไทย' ขอเสียงหนุนเป็นหน.พรรคประชาธิปัตย์

"อลงกรณ์" ลุยภาคใต้ ชูนโยบายขุดคลองไทย โหวตลงประชามติวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 นำภาคใต้สู่ยุคใหม่-จับมือประเทศเพื่อนบ้านพัฒนา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับ5รัฐตอนเหนือประเทศมาเลเซีย แก้ปัญหาความไม่สงบ

เมื่อเวลา 13.30 น. (21ต.ค.61) ที่โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเข้ารับการหยั่งเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 3 พร้อมทีมงานประชาธิปัตย์ยุคใหม่เดินทางไปประชุมแถลงแสดงจุดยืนนโยบายวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้

นายอลงกรณ์ กล่าวว่า มาครั้งนี้เพื่อมาบอกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ เพื่อนำเสนอจุดยืนประชาธิปไตยนโยบายปฏิรูปพรรคและวิสัยทัศน์การเมืองสีขาวสร้างจุดเปลี่ยนประชาธิปัตย์ จุดเปลี่ยนภาคใต้ จุดเปลี่ยนประเทศไทย โดยเฉพาะการนำเสนอภาคใต้ยุคใหม่ที่จะเป็นอนาคตของภาคใต้

“ภาคใต้เป็นพื้นที่ศักยภาพที่ใช้ประโยชน์ จาก 2 มหาสมุทร นั่นคือการสร้างคลองไทยนั่นเอง ซึ่งจะนำโครงการนี้ไปลงประชามติกันในวันเลือกตั้งส.ส 24 ก.พ.62 ถ้าหากโครงการนี้ผ่าน ผมเชื่อว่าจะพลิกฟื้นประเทศไทยให้เป็นประเทศชั้นนำของโลกได้อย่างรวดเร็ว จีดีพีของเราซึ่งต่ำที่สุดในอาเซี่ยนตอนนี้ให้สูงสุดในอาเซี่ยน แม้แต่สิงคโปร์ก็ตามเราไม่ทัน มีการระดมทุนด้วยการจัดตั้งกองทุนโครงการสร้างพื้นฐาน”

นอกจากนี้ก็ยังมีโครงการพัฒนาโครงการพื้นฐาน เช่น ถนนใยแมงมุมที่ไม่ต้องพึ่งพาถนนเพชรเกษมเพียงอย่างเดียว, โครงการทางด่วนระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์), พัฒนาท่าเรือท่องเที่ยวทั้งอ่าวไทย-อันดามัน เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน, โครงการพัฒนาสนามบินในภาคใต้ให้เป็นศูนย์กลางการบินรองรับการบินระยะสั้นเชื่อมโยงในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น หัวหิน, เกาะสมุย, นราธิวาส รวมถึงการพัฒนาพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับ 5 รัฐทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนบังเกอร์เป็นเคาเตอร์ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั้งในพื้นที่และในประเทศเข้ามา และการสร้างเขตพิเศษฐานเศรษฐกิจใหม่ยาง/น้ำมันปาล์ม/ผลไม้/ประมง

“ภาคใต้ยุคใหม่ที่นำเสนอผมเชื่อว่าสมาชิกพรรคจะได้สนับสนุนผมเพื่อให้เป็นผู้นำพรรค เปลี่ยนแปลงพรรคประชาธิปัตย์ ปฎิรูปพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศ เปลี่ยนแปลงภาคใต้ไปสู่อนาคตที่เราจับต้องได้ไม่ใช่แค่คำพูดหรืออดีตที่ผ่านมา”

นายอลงกรณ์กล่าวและว่า จากการเดินทางไปหลายพื้นที่พบว่าสมาชิกมีการตื่นตัวมาก เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่จะได้เลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ทุกคนจึงมีความกระตือรือร้น และยืนยันว่าไม่เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น เพราะเป็นเรื่องภายใน แต่แน่นอนว่าเวลาที่ผู้สมัครหัวหน้าพรรคไปหาเสียงจะต้องนำเสนอนโยบาย เพราะเราอยากให้การเมืองแข่งกันเรื่องนโยบายแข่งกันเรื่องวิสัยทัศน์ ความสามารถ

และการที่ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มันหมายถึงการที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย สมาชิกก็อยากจะรู้ว่าคุณมีคุณสมบัติประสบการณ์ความรู้ความสามารถ มีนโยบายอะไรสำหรับประเทศในนามพรรค เพื่อที่จะสร้างชัยชนะครั้งใหม่ให้กับพรรคประชาธิปัตย์