กกต.จ่อเสนอคสช.คลายล็อคเพิ่ม

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.แถลงภาพรวมการเปิดรับลงทะเบียนองค์กรที่มีสิทธิแนะนำชื่อบุคคลเพื่อสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ได้กำหนดให้สำนักงานกกต. ประจำจังหวัดทั่วประเทศ เปิดรับลงทะเบียนองค์กรระหว่างวันที่ 15-24 ต.ค.

ว่า 4 วันที่ผ่านมามีการยื่นลงทะเบียนองค์กรทั่วประเทศ รวม 29 องค์กร 14 จังหวัด โดยกรุงเทพมหานครมีการยื่นลงทะเบียนสูงสุด 10 องค์กร รองลงมาจังหวัดละ 3 องค์กร คือ พัทลุง และศรีสะเกษ ลำดับ 3 จังหวัดละ 2 องค์กร ได้แก่ สระแก้วและนนทบุรี ส่วนที่เหลือยื่นลงทะเบียนจังหวัดละ 1 องค์กร ได้แก่ พิษณุโลก,ลำปาง ,หนองคาย ,นครปฐม ,ร้อยเอ็ด ,ปทุมธานี ,ตราด ,ตรัง ,กาญจนบุรี เมื่อพ้นจากกำหนดในวันที่ 24 ต.ค.นี้ จะหมดสิทธิลงทะเบียนองค์กร. ต้องยื่นสมัครด้วยตนเอง ทั้งนี้องค์กรที่มีสิทธิลงทะเบียน ประกอบด้วย องค์กรที่กฎหมายจัดตั้ง เช่น สภาทนายความ แพทยสภา อัยการ องค์กรของรัฐต่าง ๆ เป็นต้น และองค์กรที่เป็นนิติบุคคล

“กรณีที่องค์กรมาลงทะเบียนกันน้อยนั้น. กกต.คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการประชาสัมพันธ์เชิญชวน ซึ่งกกต.ได้จัดเตรียมบุคลากรและสถานที่พร้อมอำนวยความสะดวกการยื่นลงทะเบียนไม่เว้นวันหยุดราชการ สามารถมาติดต่อได้ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ซึ่งผมยังเชื่อมั่นว่าจะองค์กรที่มาลงทะเบียนส.ว.มากขึ้น รวมถึงการสมัครอิสระ เพราะการเลือกส.ว.ครั้งนี้มีความสำคัญ ต้องโหวตเลือกนายกฯตามบทเฉพาะกาล ท้ายที่สุดหากเปิดให้ลงทะเบียนแล้วไม่มาสมัคร ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวพร้อมระบุว่า หากท้ายที่สุดมีการยื่นลงทะเบียนน้อยก็ไม่กังวลเรื่องการฮั้ว เพราะกฎหมายได้กำหนดมาตรการป้องกันการฮั้วไว้แล้ว เช่น หากนับคะแนนแล้วมีผลคะแนนไม่ถึง 10 % จะให้ลงคะแนนใหม่ โดยคนที่ไม่มีคะแนนเลยจะไม่มีสิทธิลงคะแนนอีก

เลขาธิการกกต.กล่าวอีกว่า สัปดาห์หน้า สำนักงาน กกต.จะเสนอที่ประชุม กกต.พิจารณาเรื่องการบริจาค ระดมทุนของพรรคการเมืองว่าอะไรบ้างที่ควรเปิดให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย โดยอาจเสนอไปยังคสช.ให้เป็นข้อยกเว้นหรือไม่ เพราะบางกิจกรรมที่มีความจำเป็นต้องเปิดให้ทำได้ เพื่อการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม ทั้งนี้ได้ทราบจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่า กำลังเตรียมการเรื่องที่คสช.จะพบกับพรรคการเมือง แม่น้ำห้าสายรวมถึง กกต.ตามข้อ 8 ในคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่53/60 อยู่แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งส่วนตัวก็อยากให้เกิดขึ้นโดยเร็วจะได้มีความชัดเจนในเรื่องการปฏิบัติของพรรคการเมือง

ส่วนกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.และนายกรัฐมนตรี ใช้สื่อโซเชียลประชาสัมพันธ์ตัวเอง ในขณะที่คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/61 ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองหาเสียงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.มีหน้าที่ดูแลเฉพาะพรรคการเมือง แต่นายกรัฐมนตรีไม่ใช่พรรคการเมือง จึงไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งนี้