XO - ซื้อ

XO - ซื้อ

คาดกำไร 3Q61 +5%QoQ และ +135%YoY

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • คาดกำไร 3Q61 อยู่ที่ราว 45 ล้านบาท +5%QoQ และ +135%YoY : ฝ่ายวิจัยคาดรายได้ 3Q61 จะเติบโต 15%YoY สู่ระดับ 258 ล้านบาทจากการที่บริษัทมุ่งเน้นขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโซนยุโรปตะวันออก อีกทั้งไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของสินค้าเนื่องจากโรงงานใหม่ที่ระยองสามารถเดินเครื่องผลิตได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวขึ้นราว 2-3% สู่ระดับ 39-40% จาก 1) ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับตัวลง 14%YTD สู่ระดับ 13.4 เซนต์/ปอนด์ โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้ทำสัญญาซื้อน้ำตาลล่วงหน้ากับคู่ค้าไปจนถึงกลางปี 62 (คาดว่าจะเริ่มใช้น้ำตาลล็อตที่ 2 ช่วง 4Q61) 2) บริษัทได้ปรับราคาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% ตั้งแต่ 3Q61 เป็นต้นไปจากที่ไม่มีการปรับขึ้นราคามากว่า 5 ปี โดยเราคาดกำไรสุทธิ 3Q61 อยู่ที่ราว 45 ล้านบาท +5%QoQ และ +135%YoY
  • คงประมาณการปี 61-62 ซึ่งเติบโต 211%YoY และ 13%YoY ตามลำดับ : ฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรปี 61 และ 62 อยู่ที่ราว 183 ล้านบาทและ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211%YoY และ 13%YoY ตามลำดับ โดยคาดว่ารายได้ 2H61 อยู่ที่ราว 532 ล้านบาท +15%YoY จากการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 36.5% ใน 1H61 สู่ระดับ 39-40% ในช่วง 2H61 จากการปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์และต้นทุนราคาน้ำตาลที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเป็นปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของผลประกอบการปี 61 ทั้งนี้เราคาดว่ารายได้ในปี 62 จะเติบโต 10% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 38-40% จากการทำสัญญาซื้อน้ำตาลล่วงหน้าได้เพิ่มขึ้นในช่วงกลางปีที่ผ่านมา
  • ฐานะการเงินบริษัทยิ่งแข็งแกร่งจากได้เงินใช้สิทธิวอแรนต์อีก 280 ล้านบาท : บริษัทได้ออก XO-W1 ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 59 เพื่อใช้ในการซื้อกิจการ โดยมีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอแรนต์ต่อ 1 หุ้นสามัญ ที่ราคา 4 บาท (จำนวน 69.9 ล้านหุ้น) ซึ่งจะหมดอายุในเดือน พ.ค. 62 โดยเราคาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิเต็มจำนวนเนื่องจากราคาหุ้น XO ในกระดานสูงกว่าราคาใช้สิทธิ (มีสถานะ in-the-money) ส่งผลให้คาดว่าบริษัทจะได้รับเงินอีกราว 280 ล้านบาทเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งของงบดุล (หลังได้รับเงินใช้สิทธิวอแรนต์บริษัทจะเป็น Net Cash Company) เนื่องจากกิจการที่คาดว่าจะเข้าซื้อไม่สามารถตกลงกันได้และปัจจุบันยังไม่มีแผนในการใช้เงินดังกล่าว
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 13.00 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าด้วยวิธี PE Ratio โดยปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 62 ซึ่งอิง Prospective PE ที่ 22 เท่าซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีที่ระดับ 30 เท่า เนื่องจากหุ้นได้ตอบสนองความคาดหวังการเติบโตในปี 61-62 ไปแล้ว โดยเราคาดกำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.59 บาทต่อหุ้นได้ราคาเหมาะสมตามเดิมที่ 13.00 บาท ซึ่งมี Upside 26% จากราคาปัจจุบันจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

- การขยายตลาดไปยังต่างประเทศล่าช้า

- ราคาวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น