“ทรัมป์”สั่งหั่นงบทุกกระทรวง 5%ลดขาดดุลงบประมาณ

“ทรัมป์”สั่งหั่นงบทุกกระทรวง 5%ลดขาดดุลงบประมาณ

กระทรวงการคลังสหรัฐ เผยตัวเลขขาดดุลงบประมาณประจำปีนี้ ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. เพิ่มขึ้นเป็น 779,000 ล้านดอลลาร์ ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2555 และเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 113,000 ล้านดอลลาร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะแจ้งให้รัฐมนตรีทุกคนทำการปรับลดงบประมาณในกระทรวงที่ดูแลลง 5% เพื่อแก้ไขปัญหาขาดดุลงบประมาณ

“เราจะขอให้รัฐมนตรีทุกคนลดวงเงินงบประมาณลง 5% ในวันนี้” ปธน.ทรัมป์กล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ระบุว่า มีแผนที่จะปรับลดการใช้จ่ายของรัฐบาล หลังมีการประกาศตัวเลขขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 17% ในปีงบประมาณ 2561 สู่ระดับ 7.79 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ระบุว่า เขาเตรียมพิจารณาปรับลดรายจ่ายของรัฐบาลในด้านใดแต่ยืนยันว่า รัฐบาลจะยังคงเดินหน้ามาตรการปรับลดอัตราภาษีต่อไป เพราะรัฐบาลยังคงมีแผนที่จะปรับลดอัตราภาษีอื่นๆอีก

กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเทียบเท่ากับ 3.9%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) เพิ่มขึ้นจาก 3.5% ในปีประมาณ 2560 โดยรายรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยเฉพาะจากบุคคลธรรมดา แต่การจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลกลับลดลง

ในส่วนของรายจ่ายต่างๆของสหรัฐเพิ่มขึ้น 127,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากสุดในประวัติการณ์ ส่วนใหญ่เป็นงบชำระหนี้ และโดยรวมแล้วหนี้สาธารณะของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านล้านในปีงบประมาณล่าสุด เป็น 15.75 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนรายจ่ายดอกเบี้ยหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น 14% เป็น 65,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากระดับหนี้ที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น