ศาลแพ่งสั่งคืนเงินเหยื่อร่วมทุน I Makeover กว่า37ราย

ศาลแพ่งสั่งคืนเงินเหยื่อร่วมทุน I Makeover กว่า37ราย

ปปง.เผยศาลแพ่งสั่งคืนเงินให้เหยื่อ 37 ราย คดีถูกหลอกร่วมทุน I Makeover ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท เตือนผู้รับโอนทรัพย์มีความผิดฐานร่วมฟอกเงิน

สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) - 16 ต.ค.61 พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยว่า ปปง.มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์ สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายปฏิ หรือ นายเจนกิจ แก้วรุณคำ กับพวก เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร รวม 6 รายการ มูลค่า 6,833,036.75 บาท พร้อมดอกผล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า นายปฎิกับพวกกระทำความผิด โดยโฆษณาชักชวนบุคคลทั่วไปร่วมลงทุนในโครงการที่ใช้ชื่อว่า I Makeover เพื่อนำเงินไปลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยมีปันผลให้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญาหรือความผิดตามกฎ หมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และต่อมาศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินจำนวน 6 รายการ พร้อมดอกผลดังกล่าว ไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 37 ราย

พล.ต.ต ปรีชา กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ของนายปฏิ และพวก จะหลอกให้ผู้เสียหายสมัครสมาชิกโครงการที่ใช้ชื่อว่า I Makeover โดยอ้างว่าจะนำเงินของสมาชิกไปลงทุนในตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ มีการกำหนดแผนการลงทุนและการจ่ายเงินปันผล หน่วยลงทุนหน่วยละ 10,000 บาท ระยะเวลาการลงทุน 15 สัปดาห์ มีเงินปันผลสัปดาห์ละ 10 เปอร์เซ็นต์ของหน่วยลงทุน เริ่มจ่ายปันผลสัปดาห์ที่ 2 ถึงสัปดาห์ที่ 13 รวม 12 ครั้ง และสัปดาห์ที่ 15 รับเงินทุนคืน นอกจากนี้ ยังมีค่าตอบแทนให้กับสมาชิกที่แนะนำบุคคลอื่นมาสมัครเป็นสมาชิกโครงการ โดยผู้แนะนำจะได้รับเงินจำนวน 5 เปอร์เซ็นต์จากการลงทุนครั้งแรกของสมาชิกใหม่ และเงินจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์จากเงินปันผลที่ผู้สมัครใหม่ได้รับ ซึ่งมีผู้สนใจนำเงินมาร่วมลงทุนจำนวนมาก ต่อมานายปฏิ ได้หยุดจ่ายเงินปันผลให้แก่สมาชิก และหลบหนีไป

“หลังจากศาลมีคำสั่งดังกล่าว ปปง. จึงดำเนินการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 37 ราย รวมจำนวนเงิน 6,855,675.18 บาท ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีของผู้เสียหาย 31 ราย รวม 5,213,525.69 บาท และออกเช็คสั่งจ่ายในนามผู้เสียหายอีก 6 ราย เป็นเงินรวม 1,642,149.49 บาท จึงขอแจ้งเตือนผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดว่า นอกจากจะถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินแล้ว หากใครมีพฤติการณ์ในการรับหรือโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดก็อาจต้องถูกดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินด้วย” รักษาราชการแทนเลขาฯปปง. กล่าว