อัด 'คุณหญิงสุดารัตน์' อย่าทำการเมืองแบบเดิม โจมตีรบ.แบ่งแยกชนชั้น

อัด 'คุณหญิงสุดารัตน์' อย่าทำการเมืองแบบเดิม โจมตีรบ.แบ่งแยกชนชั้น

นายกฯอัด "คุณหญิงสุดารัตน์" อย่าทำการเมืองแบบเดิม หลังโพสต์โจมตีแบ่งแยกชนชั้น โอดพอแก้จนก็มีคนแปลเจตนาผิด

เมื่อวันที่ 16 ต.ค.61 เวลา 08.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อนำเสนอผลการดำเนินโครงการ Show Case กาฬสินธุ์ -แม่ฮ่องสอนโมเดล โดยนายกฯได้ชมการแสดงของเยาวชนชุด"จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน"จากนั้นชมวีดีทัศน์สรุปโครงการ และยังได้ลองชิมเมนูอาหารที่ทำจากบุก ซึ่งเป็นเมนูที่มีประโยชน์เรื่องจากไม่มีแป้ง ทั้งนี้นายกฯยังได้แนะนำให้เพิ่มมูลค่า อย่างการนำผ้าไหมมาเป็นผลิตภัณฑ์ อย่างเคสโทรศัพท์ที่นำมาเสนอที่ใช้ผ้าไหมเป็นวัสดุในการทำ

ขณะที่ นายกฯกล่าวว่า ตนขอเปรียบตรงนี้หน่อย พอเราใช้แก้จนก็มีคนมาแปลงเจตนาผิดไปมองว่าเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ก็เห็นอยู่แล้วนะ แต่อย่างไรก็ตามถ้าเขาเข้าใจเราก็จบ แต่ถ้าไม่เข้าใจก็เป็นประเด็นทางการเมือง ดังนั้น ลองไปเปลี่ยนดู ไม่ว่าเรื่องบัตรสวัสดิการต่างๆ เราใช้คำว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อต้องการดูแลประชาชนที่ขึ้นทะเบียน เราไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น ลองไปเปลี่ยนชื่อดูว่าจะเรียกอย่างไรได้เต็มปาก เป็นบัตรความสุขหรืออะไรทำนองนี้ได้ไหม พอบอกบัตรคนจนกลายเป็นการแบ่งแยกชนชั้น ที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ปัญหาเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ พอเราแก้มาก็ถูกโจมตีโน้นนี้ เพราะฉะนั้นก็ต้องระวังแล้วกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้คนก็ไม่มีใครอยากถูกเรียกว่าคนจน ตนก็ไม่ได้มองเขาแบบนั้น เพียงแต่ต้องเพิ่มการกระจายรายได้ให้กับเขา โครงการต่างๆ ก็ไม่ได้แก้จน แต่เป็นการเพิ่มความสุขให้กับเขา ไม่ว่าคนรวยคนจนก็สามารถเข้าถึงโอกาสได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีโครงการลงไป เช่น ไทยนิยม ยั่งยืน ที่คิดขึ้นมาว่าจะทำอะไรแล้วเติมลงไป ไม่ใช่มองอย่างเดียวเป็นการเดินทางการเมือง มันไม่ใช่ ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้หากทุกคนร่วมมือกัน ดีกว่ามาสร้างความขัดแย้ง โจมตีกันไปทำ ตนไม่อยากจะทำตรงนี้ มันเป็นปัญหาของประเทศเรา และวันนี้หลายประเทศจับตาประเทศเราอยู่ เขาไม่ได้มองประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว แต่เขามองในเรื่องการพัฒนาด้วย ตนไปประชุมหลายประเทศก็ได้รับคำชมเชยมาหลายประเด็นที่เรามีความคืบหน้าและเขาอยากให้เราเดินหน้าต่อไป

นายกฯ กล่าวว่า หลายอย่างกำลังดำเนินการอยู่ แต่ต้องปลดล็อกจากข้างล่างด้วย ดังนั้น ขออย่าทำการเมืองแบบเดิมๆ เลยดีกว่า ขอให้ทำแบบใหม่กับตนเถอะ ใครจะทำก็ว่ามา ดีกว่าโจมตีกันไปมาไม่มีประโยชน์ อย่างการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ไม่ใช่เป็นการเมือง และงานเหล่านี้ที่มาแสดงไม่ใช่เป็นการโปรโมท ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นส่ิงที่ทุกคนต้องทำ

ทั้งนี้ (15ต.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า อย่าทำให้คนไทยไม่เท่ากัน ด้วยบัตรคนจน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ต้องยึดหลักความทัดเทียม ที่คนไทยทุกคนจะต้องได้รับสิทธิ และโอกาสเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างมีคุณภาพทัดเทียมกัน หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นของประชาชน จึงต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) กลับมีมติอนุมัติกฎหมายตั้งซุปเปอร์บอร์ดสุขภาพ โดยให้มีภาคประชาชนเพียง 3 คน จาก 45 คน ซึ่งที่เหลือส่วนมากเป็นข้าราชการ และมีเอกชนตัวแทนบริษัทยาข้ามชาติมาเป็นกรรมการ แล้วประชาชนอยู่ตรงไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัฐบาลนี้ได้ประกาศให้ผู้ที่ถือบัตรคนจนรักษาฟรี ทั้งที่ในความเป็นจริงประชาชนทุกคนที่ได้รับบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ก็ได้รับการรักษาฟรีอยู่แล้ว โดยไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นคนจน แต่รัฐบาลกลับมีมติ ครม.ให้ผู้ถือบัตรคนจนรักษาฟรี ซึ่งกลายเป็นเรื่องแบ่งแยกคนจนคนรวยย้อนกลับไปเหมือนยุคบัตรอนาถา สำหรับคนจน เหมือนเมื่อสมัยปี พ.ศ. 2518 ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดช่องแบ่งแยกคนจนออกไป และอาจทำให้มีการเลือกปฏิบัติได้ ถือเป็นการขัดหลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอย่างร้ายแรง

คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ขอย้ำว่าหลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค คือต้องการให้คนไทยทุกคนมีสิทธิเข้าถึงการรักษาพยาบาลด้วยคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ คนรวยหรือคนจน ไม่ใช่คนจนต้องรักษาแบบอนาถา นี่คือหัวใจของโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค มิใช่เรื่องที่ใครจะพยายามเอาเรื่องการรักษาฟรีไปหาเสียงอย่างผิดๆ โดยทำให้หลักการของโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าผิดเพี้ยนซึ่งเป็นเรื่องที่ตนยอมไม่ได้ คนไทยต้องเท่ากัน