จับตาผลประกอบการบริษัทฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

จับตาผลประกอบการบริษัทฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันจันทร์ (15ต.ค.)ตามเวลาสหรัฐ ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพาณิชย์เผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่มีการเปิดเผยในวันนี้ และในสัปดาห์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 89.44  จุดหรือ 0.35% ปิดที่ 25,250.55 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วงลง 16.34  จุดหรือ 0.59%  ปิดที่ 2,750.79 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วงลง 66.15  จุดหรือ 0.88% ปิดที่ 7,430.74 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงในช่วงปิดตลาดนำโดยหุ้นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี โดยหุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ร่วง 1.8% ไมโครซอฟท์ลดลง 0.8% ส่วนหุ้นธนาคารก็ลดลงเช่นกัน รวมทั้งหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลบ 1.3% แม้ธนาคารเผยผลกำไรดีเกินคาด โดยกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ 66 เซนต์ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 62 เซนต์ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลประกอบการของหลายบริษัทที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และเน็ตฟลิกซ์

ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย สร้างความกังวลให้กับตลาดเช่นกัน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐให้สัมภาษณ์ในรายการ “60 นาที” ทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส เกี่ยวกับกรณีที่นายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียหายตัวอย่างลึกลับหลังเข้าไปติดต่อธุระที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในนครอิสตันบูล เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา 

 ผู้นำสหรัฐประกาศว่า สหรัฐจะใช้มาตรการลงโทษสถานหนัก หากผลการสืบสวนพบว่าซาอุดีอาระเบียมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ไม่ว่าจะในทางใดก็ตาม

ด้านซาอุดีอาระเบีย ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการที่รุนแรงกว่า พร้อมย้ำเตือนว่า ซาอุฯ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจน้ำมันนั้น มีบทบาทสำคัญและทรงประสิทธิภาพในเศรษฐกิจโลก