คลายกังวลเฟดหนุนดาวโจนส์ปิดบวกเกือบ 300 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดในวันศุกร์ (12 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เพิ่มขึ้น 287.16 จุด หรือ 1.16% มาอยู่ที่ 25,339.99 จุด หลังเปิดตลาดทะยานแรงเกือบ 400 จุด โดยได้แรงหนุนหลักนำโดยหุ้นของ “วีซ่า” ที่ปิดบวก 4.7%

ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ 2,767.13 จุด หลังปิดในแดนลบ 6 วันติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยาน 3.2% ส่วนดัชนีแนสแด็กปิดบวก 2.29% มาอยู่ที่ 7,496.89 จุด

นอกจากนั้น ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้อานิสงส์จากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของภาคธนาคารสหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจเจรจากันนอกรอบการประชุม จี20 ที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินา ซึ่งอาจช่วยยุติการทำสงครามการค้าระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

ก่อนหน้านี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า การพบปะกันระหว่างนายทรัมป์กับนายสี นอกรอบการประชุม จี20 อาจเกิดขึ้นได้ หากรัฐบาลสหรัฐเชื่อว่าการพบปะกันของผู้นำทั้ง 2 คนจะก่อให้เกิดประโยชน์

“มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าถือเป็นเครื่องมือเจรจาต่อรองที่สำคัญ ซึ่งถ้าการพบปะกันจะส่งผลบวกต่อทิศทางการเจรจาการค้า ผมก็เชื่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะสนับสนุนให้มีการจัดประชุมดังกล่าว”

แม้ปิดการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันศุกร์ แต่ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดการซื้อขายในสัปดาห์นี้ลดลงกว่า 4% ขณะที่แนสแด็กปิดรอบสัปดาห์ลดลง 3.7% และนับเป็นการลดลงรอบสัปดาห์หนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ของทั้ง 3 ดัชนี

นอกจากนั้น เอสแอนด์พี 500 ยังปิดการซื้อขายในแดนลบ 3 สัปดาห์ติดต่อกัน นับว่าร่วงต่อเนื่องนานที่สุดตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2559