'ปปป.' ร้องป.ป.ช. ฟันจนท.สรรพามิต-ศุลการกร โกงภาษีน้ำมัน

'ปปป.' ร้องป.ป.ช. ฟันจนท.สรรพามิต-ศุลการกร โกงภาษีน้ำมัน

"ปปป.ตร." หอบสำนวนร้อง "ป.ป.ช." สอบจนท.สรรพามิต-ศุลการกร ร่วมขบวนการโกงภาษีน้ำมัน ส่อผิดอาญา ม.157

เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 61 ที่ สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตและประพฤติมิชอบ

พร้อมนำเอกสารหลักฐานกว่า 8 แฟ้ม มอบให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่าน นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. ซึ่งสำนวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ปนม.ตร.) ได้ลงพื้นที่สอบสวนพฤติกรรมการโกงภาษีน้ำมัน ดังนั้น จึงขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวนความผิดใน 2 คดี คือ กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐจากกรมสรรพสามิต 3 คน และกรมศุลกากร 3 คน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงภาษีน้ำมัน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และความผิดตามมาตรา 162 ที่รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ส่วนอีกคดี คือ กรณีบริษัทเอกชนเป็นผู้ร่วมสนับสนุนให้มีการกระทำผิด โดยทั้ง 2 คดีนี้ทาง ป.ป.ช. ระบุว่า หากผู้เกี่ยวข้องในสำนวนมีความเชื่อมโยงกัน ก็สามารถรวมการไต่สวนเข้าด้วยกันได้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการแสวงหาข้อเท็จจริง เพราะก่อนหน้านี้ ปปป. ได้ลงพื้นที่ทำข้อมูลอย่างรัดกุมแล้ว

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบพบว่าบริษัทผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ทำเรื่องขอซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมัน ตามมาตรา 7 ที่มีสิทธิ์ขอยกเว้นหรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ. 2560 ในจังหวัดชลบุรี อ้างว่านำไปขายต่อให้ บริษัทในประเทศเมียนมา แต่ข้อเท็จจริงกลับพบว่า มีการขนส่งน้ำมันไปขายให้ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดพิษณุโลกจำนวน 32,000 ลิตร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือ ค่อยนำส่งที่ชายแดนอำเภอเเม่สอด ซึ่งการสืบสวนพบว่า ทำมาแล้ว 36 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท