โดนแล้ว! 'สันธนะ' กับพวก ปปง.สั่งอายัดทรัพย์12รายการ

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง) ได้เผยคำสั่งย.168/2561 ผ่านเวปไซต์ของสำนักงานปปง. เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว สืบเนื่องจากปปง.ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง กรณีน.ส.มินท์ฐิตา ศิรพันธ์โภคิณ กับพวกซึ่งประกอบอาชีพค้าขายอยู่บริเวณตลาดแอร์พอร์ต หรือตลาดใหม่ดอนเมือง เข้าร้องทุกข์เมื่อวันที่ 8 พ.ค ที่ผ่านมา ขอให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ กับพวก ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์โดยระบุว่าถูกพ.ต.ท.สันธนะกับพวกใช้อำนาจโดยมิชอบเรียกเก็บเงินเป็นรายเดือนตั้งแต่เดือนละ 1,000-2,500 บาท

โดยอ้างว่าเป็นค่าคุ้มครอง หรือค่าอำนวยความสะดวกโดยวิธีเก็บเงิน พ.ต.ท.สันธนะและลูกน้องซึ่งเป็นกลุ่มชายฉกรรจ์ จะสลับสับเปลี่ยนหมุนวียนกันมาเก็บเงินตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559- เม.ย2561. ซึ่งในแต่ละครั้งจะมากัน 1-5 คน สะพายกระเป๋า สวมเสื้อคลุม และมีพฤติการณ์ในลักษณะข่มขู่ กดดัน บางครั้งจะยืนรายล้อมอยู่หน้าร้านค้าจนกว่าผู้ประกอบการจะยอมจ่ายเงิน หากรายใดไม่ยอมจ่ายก็จะเดินวนเวียนอยู่หน้าร้าน หรือยืนจ้องหน้าแสดงอาการข่มขู่ กดดัน ว่า หากไม่จ่ายเงินก็จะไม่สามารถค้าขายในตลาดแห่งนี้ได้ และมีผู้ประกอบการบางรายที่ไม่ยอมจ่ายเงินจะถูกขูดสีรถยนต์ หรือนำกุญแจมาล็อคหน้าร้านค้า ทำให้ผู้ค้าขายในตลาดแอร์พอร์ตเกิดความหวาดกลัวจนต้องยอมจ่ายเงินให้ พ.ต.ท.สันธนะกับพวก

ทั้งนี้ พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายร่วมกันกรรโชกทรัพย์และสมคบคิดกันเกินกว่า 5 คนขึ้นไปเพื่อกรรโชกทรัพย์ จึงเข้าข่ายความผิดฐานซ่องโจร ต่อมาพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมืองได้ขอหมายจับผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด. เฉพาะพ.ต.ท.สันธนะรายเดียว ศาลอนุมัติหมายจับ 8 ฉบับ และเมื่อจับกุมตัวได้จึงดำเนินคดีตามขั้นตอน โดยความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ เป็นมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน เพื่อประโยชน์ในการปฎิบัติตามกฎหมายคณะกรรมการธุรกรรมจึงมีมติให้ตรวจสอบการทำธุรกรรมของพ.ต.ท.สันธนะและพวก จากการรวมรวมพยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 12 รายการมีทั้งรถยนต์ บัญชีเงินฝากและอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดิน ซึ่งสามารถโอนเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ครอบครอง คณะกรรมการธุรกรรมป.ป.ง.จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สิน 12 รายการพร้อมดอกผลไว้เป็นเวลา 90 วันมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.-25 พ.ย.61. โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกยึดอายัดทรัพย์สินยื่นคำร้องต่อเลขาฯปปง.เพื่อแสดงหลักฐานว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันออกคำสั่ง

สำหรับทรัพย์สินที่ถูกอายัดในชื่อของพ.ต.ท.สันธนะ มีจำนวน 2 รายการ คือ รถยนต์โตโยต้า รุ่น VELLFIRE มูลค่า 1.5 ล้านบาทและรถยนต์โตโยต้า รุ่น ESTIMA มูลค่า 3 แสนบาท ส่วนรถยนต์ที่เหลืออีก 7 คันอยู่ในชื่อของบุคคลอื่นที่เกี่ยวในคดี ส่วนบัญชีเงินฝากและโฉนดที่ดินถือครองในชื่อของบุคคลอื่นอีกจำนวน 3 รายการ รวมทรัพย์ที่ถูกยึดอายัดไว้ชั่วคราว จำนวน 12 รายการ มีราคาประเมินที่ 4.1 ล้านบาท