พบของกลางเพียบ คดีแก๊งปลัดล่าหมี แจ้งเพิ่ม11ข้อหาหนัก

พบของกลางเพียบ คดีแก๊งปลัดล่าหมี แจ้งเพิ่ม11ข้อหาหนัก

"ศรีวราห์" จี้คดีแก๊งปลัดล่าหมีขอ ลุยตรวจพบของกลางเพียบ แจ้งเพิ่ม 11 ข้อหาหนัก พบหลักฐานสำคัญกรามล่างของสัตว์ป่า ในเรือนพักผู้มาทำบุญสำนักสงฆ์

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีการจับกุม นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอฯ กับพวก รวม 11 คน พร้อมของกลาง เป็นขาสัตว์ จํานวน 4 ขา และอาวุธปืนจํานวนหนึ่ง บริเวณป่าเขาพลู เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และ ป่าแม่น้ําน้อย อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้รับคําร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา คือ น.ส.ศรีวิจิตร ดิษแช่ม , นายทัศดนัย ขอกระโชก , นายฉัตรชัย เกาะลอย, นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ , ว่าที่ร.ต.สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง, นายสกานต์ แก่งหลวง, นายอนุสรณ์ เรือนงาม, นายประสาน เต็มธนัน, นางอรุณ แสงใส , นายถาวร เซี่ยงหลิว , และนายวัชรา ชัยสมีรักษ์

ในความผิดฐานรวม 11 ข้อหา คือ ร่วมกันเก็บหานําออกไปทําด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือทําให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ยางไม้ นํามันยาง นํามันสน แร่ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ , ร่วมกันนําสัตว์ออกไปหรือทําด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายแก่สัตว์, ร่วมกันนําเข้ายานพาหนะเข้าออกหรือขับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่,ร่วมกันนําเครื่องมือสําหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธอื่นใดเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่,ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งมิได้เป็นการกระทําโดยทาง ราชการ ที่ได้รับการยกเว้นฯ,ร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่า คุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต, ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าอัน ได้มาโดยการกระทําความผิด,ร่วมกันเก็บหาของป่าหรือกระทําด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ,ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติด ตัว และไม่มีเหตุเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
พร้อมของกลาง,อาวุธปืนยาวลูกกรด ขนาด .22 ติดกล้องและกระบอกเก็บเสียง 1 กระบอก,เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22,อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.,แม็กกาซีน พร้อมเครื่องกระสุน 9 มม.,เครื่องกระสุน ขนาด 5.56 มม.,ไฟฉายคาดหัว,มีด,และอื่นๆอีกหลายรายการ”

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รรท.ผบช.ภ.7 ให้สั่งการให้คณะ พนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.กาญจนบุรี เข้าทําการตรวจสถานที่ เกิดเหตุบริเวณต่าง ๆ ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ทํากิจกรรมในเขตอุทยาน เพื่อเก็บวัตถุพยานที่เกี่ยวข้อง อย่างละเอียด

“ล่าสุดวันนี้ได้รับรายงานว่า จากการตรวจสอบพบวัตถุพยานเพิ่มเติมยังพบชิ้นส่วนกรามล่างของสัตว์ป่าขนสีดํา,เศษชิ้นเนื้อ,กระป๋องเบียร์เปล่า,มีดอีโต้,เขียงไม้ และหม้ออลูมิเนียม บริเวณเรือนที่พักผู้มาทําบุญ สํานักสงฆ์เหมืองเต่าดํา,พบขวดน้ําพลาสติกบรรจุปลอกกระสุนปืนขนาด.45,9 มม.จํานวนหนึ่งและเศษถุงพลาสติก บริเวณที่เจ้าหน้าที่สกัดจับกลุ่มผู้ต้องหา นําส่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และสัตว์แพทย์ ดําเนินการตรวจพิสูจน์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการสืบสวน สอบสวน ขยายผล ทราบว่า น.ส.ศรีวิจิตร และ นายทัศดนัย ต่างพกพา อาวุธปืนเข้าไปในที่เกิดเหตุ โดยซุกซ่อนไว้ในรถยนต์กระบะที่นายทัศดนัยขับขี่ แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าทํา การตรวจค้น ไม่พบอาวุธปืนดังกล่าว โดยเมื่อผู้ต้องหาถูกนําตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้ให้ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ซึ่งมาเยี่ยมผู้ต้องหา นําอาวุธปืนดังกล่าวกลับไปไว้ที่บ้านพัก จึงแจ้งข้อกล่าวหากับ ด.ช.เอ ว่า “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืน ไปใน เมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุเร่งด่วนตาม สมควรแก่พฤติการณ์” โดยพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้รับคําร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 374/2561 ลง 9 ต.ค.61 พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จํานวน 1 กระบอก และขนาด 11 มม. จํานวน 1 กระบอก ไว้เป็นของกลางในคดีเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป “พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว