‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 32.86 บาทต่อดอลลาร์

หลังIMFคาดภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีหน้ามีโอกาสชะลอจากลดความเสี่ยงสงครามการค้า ขณะที่เงินบาทระยะสั้นยังแกว่งตัวผันผวน ช่วงเช้าวันนี้โดนกดดันจากการอ่อนค่าของดอลลาร์

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.86 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น จากช่วงปิดตลาดวันก่อนที่ระดับ 33.05 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในแดนลบ S&P500 ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.1% ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 3.26% ระหว่างวัน แต่ย่อตัวลงปิดที่ระดับ 3.20% หลังจากที่กองทุนการการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ปรับลดคาดการณ์จีดีพีโลกลงเหลือ 3.7% ในปีนี้และปีหน้า และให้ความเห็นว่าเศรษฐกิจทั่วโลกมีโอกาสชะลอตัวลงจากความเสี่ยงเรื่องสงครามการค้า

ภาพรวมเศรษฐกิจที่แย่ลง ความเสี่ยงของกลุ่มเทคโนโลยีที่สูงขึ้น และบอนด์ยิลด์สหรัฐที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดเอนเอียงไปสู่การปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) และค่าเงินเยนเป็นสกุลเงินที่นักลงทุนเลือกเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย คืนที่ผ่ามมาจึงปรับตัวลงถึง 0.3% มาที่ระดับ 112.90 เยนต่อดอลลาร์

ขณะเดียวกัน นักลงทุนฝั่งยุโรปก็เริ่มเห็นสัญญาณบอนด์ยิลด์อิตาลีที่หยุดพักฐาน ประกอบกับข่าวความคืบหน้าของข้อตกลงระหว่างสาภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรเรื่อง Brexit ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้น สองเรื่องนี้เป็นบวกกับเงินยูโร ส่งผลให้แข็งค่าขึ้นมาได้ 0.1% ที่ระดับ 1.14 ยูโรต่อดอลลาร์

ส่วนของค่าเงินบาท ช่วงเช้าวันนี้โดนกดดันจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ระยะสั้นจะแกว่งตัวผันผวน แต่ก็ยังต้องระวังการอ่อนค่าเร็วของเงินบาทอยู่ เพราะความเสี่ยงหลัก ทั้งเรื่องบอนด์ยิลด์ที่อยู่ในระดับสูง และตลาดการเงินทั่วโลกที่เปราะบาง สามารถกลับมาเป็นปัจจัยที่ถ่วงให้ตลาดปิดรับความเสี่ยงและหนุนดอลลาร์ให้กลับมาแข็งค่าได้เช่นกัน มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 32.80-32.95บาทต่อดอลลาร์

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์  ผู้บริหารงานวิจัย กลุ่มงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากอ่อนค่ากว่าระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ วานนี้ ขณะที่ แรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงมาบางส่วน เนื่องจากตลาดรอประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ การที่เงินหยวนกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบที่มีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าในช่วงต้นสัปดาห์ ก็ช่วยชะลอแรงกดดันต่อสกุลเงินในภูมิภาคได้บ้างบางส่วน

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ คาดไว้ที่ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ สัญญาณฟันด์โฟลว์ ขณะที่ ปัจจัยในต่างประเทศ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิต และสัญญาณดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่เฟด