'ไอเฟค' จ่อประชุมผู้ถือหุ้นปลายพ.ย.นี้

'ไอเฟค' จ่อประชุมผู้ถือหุ้นปลายพ.ย.นี้

"ไอเฟด" เดินหน้าจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเลือกกรรมการชุดใหม่ปลายเดือนพ.ย.นี้ หลังล่าสุดคัดเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งกรรมการรอบแรกได้แล้ว 14 ราย จาก 3 กลุ่มผู้ถือหุ้น หวังกลับมาซื้อขายภายใน 4-6 เดือน

พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ กรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) อีกหนึ่งรอบภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้ เพื่อกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นสำหรับการเลือกคณะกรรมการชุดใหม่จำนวน 7 คน แทนตำแหน่งกรรมการของบริษัทที่ว่างอยู่ตามมาตรา 83 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พร้อมคาดว่าจะสามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นได้ในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการคัดเลือกรายชื่อผู้เข้าสมัครเป็นกรรมการบริษัทเหลือประมาณ 14 คน จากผู้ถือหุ้นที่เสนอชื่อได้ 3 ราย ได้แก่ กลุ่มเทพผดุงพร หรือเจ้าของธุรกิจกะทิชาวเกาะ ซึ่งส่งรายชื่อมาจำนวน 7 ราย กลุ่มนายทวิช เตชะนาวากุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งส่งรายชื่อจำนวน 6 ราย และที่เหลืออีก 1 ราย มาจากผู้ถือหุ้นอีกกลุ่มหนึ่ง ขณะที่ส่วนกลุ่มนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตผู้บริหารเก่าที่เสนอชื่อบุคคลรวม 60 ราย ได้ถูกตัดสิทธิไปเนื่องจากยื่นเอกสารข้อมูลมาไม่ครบถ้วนตามที่บริษัทได้เคยแจ้งไว้

ขณะที่กระบวนการถัดไปบริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อที่มีข้อมูลเอกสารครบถ้วนที่เหลือจำนวน 14 คน โดยบริษัทจะทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ถือหุ้น 3 รายที่เสนอชื่อบุคคลทั้ง 14 คนเข้ามาเพื่อขอให้บุคคลที่ถูกเสนอชื่อแต่ละคนลงนามในหนังสือยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลตามแบบ 35-E2 และส่งกลับบริษัทภายในวันที่ 15 ต.ค.นี้ และบริษัทจะส่งรายชื่อทั้งหมดให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะนำรายชื่อที่เหลือเข้าในที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการลงคะแนนเสียงคัดเลือกเป็นกรรมการชุดใหม่ต่อไป

“เงินทุนที่จะใช้ในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 4-5 ล้านบาท บริษัทกำลังวางแผนที่จะดึงเงินจากบริษัทลูกของไอเฟคมาดำเนินการ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อไม่ให้ขัดกับข้อกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีการใช้เงินจากผู้สมัคบางท่านเข้ามาดำเนินการ เพราะอาจจะทำให้ถูกมองว่าไม่เป็นกลางได้”

นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ กรรมการ ไอเฟค กล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากกระบวนการคัดเลือกกรรมการชุดใหม่แล้วเสร็จคาดว่าบริษัทจะสามารถปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขาย หรือ SP ภายในระยะเวลา 4-6 เดือน โดยกระบวนการที่ต้องดำเนินการหลังจากคัดเลือกกรรมการแล้วเสร็จ จะต้องใช้ระยะเวลา 14 วัน ในการนำรายชื่อคณะกรรมการชุดใหม่ไปขึ้นทะเบียนกับกรมธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบสนการคัดเลือกกรรมการตรวจสอบ กรรมการอิสระ ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รวมไปถึงแต่งตั้งฝ่ายบริหาร โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในเดือน เม.ย.-พ.ค.ปี 2562

ส่วนเรื่องการยื่นแผนฟื้นฟูกิจการของกลุ่มเจ้าหนี้ มองว่าจะไม่กระทบต่อการคัดเลือกคณะกรรมการ เนื่องจากคณะกรรมการทั้ง 2 ท่าน ที่เหลืออยู่ จะเข้ายื่นเรื่องคัดค้านคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ซึ่งศาลล้มละลายกลางจะนัดไต่สวนคำร้องนัดแรกในวันที่ 29 ต.ค. นี้ โดยส่วนตัวมองว่าบริษัทยังสามารถบริหารงานได้ เนื่องจากเชื่อว่าปัจจุบันบริษัทยังมีสินทรัพย์ที่มากกว่าหนี้สิน โดยงบการเงิน ณ สิ้นปี 2560 พบว่าบริษัทมีสินทรัพย์ราว 1.4 หมื่นล้านบาท และมีหนี้สินอยู่ 8 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตุว่าเจ้าหนี้ที่ยื่นขอฟื้นฟูมีความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้บริหารชุดเก่าและได้แต่งตั้งให้นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ เป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูหนี้ ซึ่งถือเป็นบุคคลที่ถูก ก.ล.ต. ถูกกล่าวโทษและถูกให้ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัท