แพทย์ เผยผลตรวจศพหนุ่มเมาคลั่งทำร้าย ร.ต.ต. พบเลือดคั่ง กะโหลกแตก

แพทย์ เผยผลตรวจศพหนุ่มเมาคลั่งทำร้าย ร.ต.ต. พบเลือดคั่ง กะโหลกแตก

พ่อหนุ่มเมาคลั่งทำร้าย ร.ต.ต.รับศพ ข้องใจลูกตายบนโรงพัก แพทย์ระบุเลือดคั่ง กะโหลกแตก ผบ.ตร. กำชับให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2561 ที่สถานบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นายประดิษฐ์ กัญญาประสิทธิ์ อายุ 50 ปี บิดาของนายวายุ กัญญาประสิทธิ์ พร้อมกับ พ.ต.ท.กฤษฎา ชฎาแก้ว รองผู้กำกับสืบสวน สภ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เดินทางมารับศพนายวายุ หลังเกิดเหตุคลุ้มคลั่งทำร้าย ร.ต.ต.วิทยา อาจหาญ รองสารวัตรปราบปราม สภ.ภักดีชุมพล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะที่เข้าระงับเหตุ บริเวณถนนสายวังใหญ่-หนองบัวเเดง บ้านแหลม ตำบลบ้านแหลม อำเภอภักดีชุมพล จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายวายุ ไปคุมขังไว้ที่โรงพัก สภ.ภักดีชุมพล และนายวายุก็เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย โดยเชื่อว่าตำรวจใช้ไม้หน้าสามตีลูกชายจนเสียชีวิต เนื่องจากตัวเองเป็นคนแรกที่เข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ที่ลูกชายใช้ไม้ทำร้ายตำรวจจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้นตำรวจที่ชื่อเอก ได้ใช้ไม้หน้าสามกระหน่ำตีลูกชายประมาณ 5 ครั้ง โดยที่ลูกชายไม่ได้ตอบโต้ ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไปยัง สภ.ภักดีชุมพล ระหว่างที่ถูกคุมตัวภายในห้องขัง ทางครอบครัวได้นำยาแก้ปวด ไปให้นายวายุรับประทาน จนกระทั่งมาทราบข่าวอีกครั้งว่าในตอนเช้าวันที่8 กันยายน ลูกชายเสียชีวิต จึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินคดีอย่างเป็นกลาง

นายประดิษฐ์ ยอมรับว่า ลูกชายติดยาเสพติดจริง และติดมานานแล้ว รวมทั้งคลุ้มคลั่งจากการติดยาเสพติด ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดี จนกระทั่งวันเกิดเหตุ เกิดอาการคลุ้มคลั่งและใช้อาวุธไล่ทำร้ายตำรวจ โดยหลังเกิดเหตุ ตัวเองเป็นคนให้ตำรวจ ควบคุมตัวลูกชายไปที่โรงพัก แทนที่จะพาไปส่งโรงพยาบาล เพราะเกรงว่าลูกชายจะอาละวาดคนที่อยู่ในโรงพยาบาล แต่ก็ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะเสียชีวิต

ทางด้านพ.ต.ท.กฤษฎา กล่าวด้วยว่า ผู้บังคับบัญชาให้นำศพของนายวายุ มาชันสูตรพลิกศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากโรงพยาบาลที่ภักดีชุมพล ไม่สามารถหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายวายุได้ ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรือซ้อมนายวายุบนโรงพักระหว่างการควบคุมของตำรวจ ตามที่มีกระแสข่าว

ทั้งนี้ การนำร่างของนายวายุ มาตรวจเพื่อหาสารเคมีที่ตกค้างในร่างกายของนายวายุ โดยเฉพาะสารเสพติดที่นายวายุ เสพเข้าไป จนเกิดอาการคุ้มคลั่ง และยาที่ญาตินำไปให้นายวายุ รับประทานก่อนที่จะเสียชีวิต ให้แพทย์ที่ชันสูตร เป็นผู้ชี้ชัดว่า นายวายุ เสียชีวิตจากสาเหตุการถูกทำร้ายร่างกาย หรือว่าเสียชีวิตจากยาที่รับประทาน ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำบุคคลใดได้ เนื่องจากตำรวจที่เข้าระงับเหตุได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย หลังจากนี้จะเรียกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ รวมทั้งพยานแวดล้อมเข้ามาให้ปากคำกับทางคำรวจด้วย

ทางด้านแพทย์นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยผลการผ่าชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิตของนายวายุ เบื้องต้นว่า เกิดจาก กระโหลกศรีษะแตก มีเลือดคลั่งในเหยื่อบุสมอง จากการถูกกระทบกระแทก

ขณะที่ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย รักษาราชการแทน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชันจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และผู้บังคับการจังหวัดชัยภูมิ ตรวจสอบเหตุและดูแลเร่งรัดคดี โดยกำชับให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้น ทราบว่ามีการแยกคดีเป็น 2 คดี คือ คดีทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บและกรณี นายวายุ เสียชีวิต

“หลังเกิดเหตุทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์ไปรับตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อวานนี้ ซึ่งทันทีที่เข้าพักรักษาตัว ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมคณะ ได้ไปเยี่ยม ที่โรงพยาบาลตำรวจด้วยตนเองพร้อมกำชับให้ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ร้อยตำรวจตรีวิทยา พึงได้รับ” โฆษก ตร. กล่าว