ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งปิดรันเวย์ฝั่งตะวันตกชั่วคราว

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งปิดรันเวย์ฝั่งตะวันตกชั่วคราว

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิสั่งปิดรันเวย์ฝั่งตะวันตกชั่วคราว จี้การบินไทยเร่งเคลื่อนย้ายเครื่องบินหลังเกิดเหตุไถลออกนอกรันเวย์จมดิน ด้าน “อาคม” เร่งทุกหน่วยงานตรวจสอบสาเหตุด่วน

นางสาวดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายสนับสนุนธุรกิจ) ปฏิบัติงานแทนผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2561 เวลาประมาณ 22.48 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้รับรายงานจากหอบังคับการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ว่ามีเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บกท.) เที่ยวบินที่ TG 679 แบบ Boeing 747-400 ทำการบินเส้นทางกวางโจว - กรุงเทพ มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งสิ้น 116 คน เกิดเหตุอากาศยานออกนอกทางวิ่งฝั่งตะวันตก (Runway19R) ทำให้ล้อเครื่องบินด้านซ้ายติดและจมลงไปกับพื้นดิน


ในเบื้องต้น ทสภ.ได้ปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินท่าอากาศยาน บทที่ 1 กรณีอากาศยานเกิดอุบัติเหตุ โดย ทสภ. ได้ส่งผู้ปฏิบัติงาน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง แพทย์ เข้าให้ความช่วยเหลือ โดยพบว่ามีผู้โดยสารบาดเจ็บ 1 คน มีอาการข้อเท้าซ้ายแพลง จึงได้ปฐมพยาบาลเรียบร้อยแล้ว จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทสภ. จำเป็นต้องปิดทางวิ่งฝั่งตะวันตกเป็นการชั่วคราวตั้งแต่เวลา 00.30 - 14.00 น. ทำให้ขณะนี้ ทสภ. เหลือทางวิ่งฝั่งตะวันออกเพียงทางวิ่งเดียวสำหรับการใช้งาน ซึ่งได้มีการประกาศผู้ทำการในอากาศ (NOTAM) แจ้งสายการบินเพื่อทราบแล้ว


โดย บวท. ได้บริหารจัดการการจราจรทางอากาศทุกเที่ยวบินให้มีประสิทธิภาพ เกิดความคล่องตัวและมีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ ทสภ. ได้ประสาน บกท. เร่งดำเนินการย้ายเครื่องบินออกจากทางวิ่งฝั่งตะวันตก เพื่อให้ ทสภ. สามารถเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบด้านความปลอดภัยก่อนเปิดใช้งาน ซึ่งคาดว่าจะสามารถใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันตกได้ภายในวันนี้เวลา 14.00 น. อย่างไรก็ตาม ทสภ. ยังคงใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันออกในการให้บริการเที่ยวบินขึ้น - ลงได้ตามปกติ


ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่างแล้ว ซึ่งล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน สสอ. ภายใต้การดำเนินงานของกระทรวงฯ ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างบูรณาการการเคลื่อนย้ายอากาศยาน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเวลา 16.00 น. วันนี้
อย่างไรก็ดี ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงเน้นย้ำการดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินสูงสุดเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารและประชาชน พร้อมยืนยันมาตรการความปลอดภัยในระบบการคมนาคมเป็นอันดับแรก ขณะนี้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทั้ง บวท. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) บกท. และ สสอ. ได้บูรณาการการดำเนินงานอย่างเร่งด่วน เพื่อประสิทธิภาพความปลอดภัยสูงสุดภายใต้นโยบาย One Transport For All