ศึก 2 บิ๊ก..รอ 'ประยุทธ์' หย่าศึก!?

หลังประกาศตัวทำงานการเมืองกับ "พรรคพลังประชารัฐ" ด้วยเหตุผลที่นอกเหนือจากเรื่องตัวบทกฎหมาย จนลามมาถึงประเด็นเก็บของเคลียร์ห้องทำงานเตรียมลาออก ของ "กอบศักดิ์ ภูตระกูล" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่โฆษกพลังประชารัฐ พาดหัวหน้าหนึ่งในนสพ.บางฉบับ

000 ร้อนถึง “กอบศักดิ์” จะอยู่เฉยไม่ได้ ต้องพาสื่อทัวร์ห้องทำงานเพื่อสยบข่าวสื่อกันยกใหญ่ ว่าไม่ได้เป็นไปตามที่เล่าลือ

000 ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ คงต้องรอว่าเวลาที่เหมาะสมตามที่ 4 รัฐมนตรี ระบุไว้ว่าจะลาออกนั้น คือเมื่อใด

000 แต่ที่แน่ๆ เริ่มมีอะไรแปลกๆ แว่วออกมาจากฟากฝั่งคนใน “ครม.” บางคน ที่พยายามสร้างแรงกระเพื่อมสร้างคลื่นใต้น้ำ กดดันให้ 4 รัฐมนตรีลาออกด้วยอีกแรง เสียงเล่าลือที่ว่านั้น ว่ากันว่าเป็นบุคคลบางคนที่ใกล้ชิด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กำลังพยายามเดินเกมดังกล่าว ส่วนรายละเอียดการแซะเที่ยวนี้เป็นอย่างไรนั้น ข่าวลอยลมเเจ้งว่ามีหลายรูปแบบ

000 ที่ผ่านมา “คณะรัฐมนตรีประยุทธ์” แทบไม่เคยมีเรื่องระหองระแหงกันภายใน นั่นเป็นเพราะ “ลุงตู่” ถืออำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สามารถชี้ชะตาให้ใครอยู่ใครไปได้ทันที ทุกอย่างจึงอยู่ในการควบคุม ชนิดที่ไม่มีอะไรออกนอกแถว

000 แต่ในช่วงเวลาที่กำลังเข้าใกล้ “เลือกตั้ง” แบบนี้ และยิ่งมีคนใน “ครม.” แต่งตัวพร้อมสู้ศึกด้วยแล้ว มันย่อมมีทั้งแรงหนุน แรงต้าน แต่ที่รู้ๆ กันนั้น “ลุงตู่” เอ่ยปากอวยพร “4 รัฐมนตรี” ที่ตัดสินใจทำงานการเมือง แล้วว่า “โชคดี”

000 ส่วนหลังจากนี้ ไม่รู้ว่าวิธีหย่าศึกระหว่าง 2 บิ๊กในครม.ลุงตู่ ที่กำลังยื้อยุดฉุดกระชากเก้าอี้4ตำแหน่งนั้น “ประยุทธ์” จะทำอย่างไร และจะส่งผลมากน้อยต่อเสถียรภาพรัฐบาลแค่ไหน

000 อย่างไรก็ตาม ความที่ทั้ง 2 บิ๊กในครม.ลุงตู่นั้น ไม่กินเส้นกัน ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมี “พรรคพลังประชารัฐ” แต่เกาเหลาพิเศษชามนี้คุกรุ่นกันมานานแล้ว นานจนขนาดที่ว่า เวลาที่สองบิ๊กจะต้องประสานงานกัน ต้องมีคนกลางหรือมีลุงตู่เป็นผู้เชื่อมต่อ ไม่อย่างนั้นงานไม่เดิน หรือบางทีเดินไปเเล้ว สะดุดลงดื้อๆเลยก็มี ทำให้งานนิ่งลงไปเเบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

000 จนมีกระเเสข่าวว่าลุงตู่บ่นลอยๆมาเมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ข้าราชการบางกระทรวงคล้ายเกียร์ว่างนั่นเเล

000 สายข่าวกระซิบเบาๆว่า ก่อนหน้านี้สองบิ๊กก็เหมือนจะดีกัน ทำงานในสายงานเดียวกัน เเต่ทำไปทำมาไม่รู้อีท่าไหน ต่างคนต่างไปซื้อคอนเวิร์ส (ต่างคน ต่างเดิน) มาสวม จนมันค่อนข้างจะไปไกล ลุงตู่จึงจับเเยกสายงาน

000 ทำให้อาการไม่กินเส้นเบาบางไประยะหนึ่ง เลยไม่มีเรื่องมีราวให้ต้องแซะอะไรกันมากมายนัก แต่ถึงวันนี้อาจไม่ใช่แบบนั้นแล้ว...

000 เหนื่อยเเทนลุงตู่เพราะอีกคนก็เพื่อน อีกคนก็กุนซือที่มากุมบังเหียนงานให้

000 เอาหน่อยเน้อ...โค้งสุดท้ายเเล้ว คนโบราณสอนไว้ ”น้ำขุ่นไว้ใน น้ำใสไว้นอก” หากเกิดอาการเเบบนี้มันไม่ดีต่อภาพรวมนะขอรับ

000 ขณะที่ความเป็นไปของ “ประยุทธ์” ที่จะกระโดดสู่เวทีการเมืองหลัง “เลือกตั้ง” คนก็ยังจับตากันอยู่ว่าจะออกมาท่าไหน มีการคาดการณ์ว่า “ประยุทธ์” คงไม่เดินดุ่มๆ แบบหัวเดียวกระเทียมลีบแน่ อย่างไรก็คงจะต้องพ่วงบรรดาเพื่อนพ้องน้องพี่มาเป็นแพ็ก ถึงมีการจับตาว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” , “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” , “พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ” หรือแม้แต่บรรดาทหารทั้งในและนอก “ครม.” จะตัดสินใจเอาด้วยหรือไม่

000 แต่ถึงอย่างไรก็คงพูดได้ว่า หลัง “เลือกตั้ง” ยังไง “3 ป.” ก็น่าจะยังมีพาวเวอร์เหลืออยู่บ้างในกองทัพ หรือจะเรียกว่ากองทัพเป็นแบ็กอัพให้อยู่ก็ไม่เชิง ดังนั้น ใครชู “ประยุทธ์” ก็เท่ากับได้กองทัพเป็นกองหนุน???

000 ส่วนเจ้าตัวจะเซย์เยสกับพรรคไหนให้เสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 บัญชีรายชื่อชิงเก้าอี้ “นายกฯ” ตอนนี้จะว่าไป หลายคนคงเดาว่า มีไม่กี่พรรคเท่านั้น ที่หมายตาคนชื่อ “ประยุทธ์” มาอยู่ในลิสต์ “นายกฯ” เช่น “รวมพลังประชาชาติไทย” “พลังประชารัฐ” ฯลฯ แต่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ ชื่อ “ประยุทธ์” อาจไม่หอมหวนแล้วก็เป็นได้ แม้จะมีแบ็กดีขนาดไหนก็ตาม เพราะกระแสของผู้นำทำการรัฐประหาร จุดติดง่ายยิ่งกว่าผ้าชุบน้ำมัน ขืนใครฝืนความจริงตรงนี้ไปอาจมีหวังน้ำตาตกในได้ง่ายๆ อีกอย่างในวันนั้น อำนาจเต็มในมือไม่มีให้ใช้เหมือนวันนี้ ก็อาจทำให้หลายพรรคเริ่มขบคิดมานานแล้วว่าควรมีใครที่ไม่ใช่ “ประยุทธ์” หรือไม่ ยิ่งในวันที่บริบทการเมืองเคลื่อน ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง สมการเดิมที่วาดกันไว้ตั้งแต่ต้น ถึงคราวต้องลบแล้ววาดกันใหม่

000 อาจได้เห็นรายชื่อใครบางคนที่มีความเป็นไปได้มากกว่าชื่อ “ประยุทธ์” ในบัญชีรายชื่อพรรคที่ว่ามา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรืออาจจะเห็นใครบางคนที่พยายามอุบชื่อกันมานาน โผล่มาเสียบแทนในฉากสุดท้ายคว้าเก้าอี้ “นายกฯ” ไปหน้าตาเฉยเลยก็เป็นได้