ชาวบ้านร้อง ฝากเงินกับกองทุนสวัสดิการชุมชนแต่เบิกไม่ได้

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2561 ชาวบ้าน ต.เปือยใหญ่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น สมาชิกในกลุ่มสัจจะออมทรัพย์วันละ 1 บาท ได้เดินทางมาชุมนุมที่ว่าการอำเภอโนนศิลา จ.ขอนแก่น เพื่อทวงเงินฝากคืนจากคณะกรรมการบริหารกลุ่ม และร้องขอความคืบหน้าการไต่สวนกับศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอโนนศิลา หลังรับเรื่องร้องทุกข์ไปนานกว่า 2 ปี แต่เรื่องเงียบ เมื่อชาวบ้านเข้าสอบถามกลับโยนให้ถามคณะกรรมการบริหารกลุ่ม

นายวีระศักดิ์ สายทอง แกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า กลุ่มสัจจะออมทรัพย์วันละ 1 บาท ต.เปือยใหญ่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 มีสมาชิกใน 8 หมู่บ้าน กว่า 2,000 คน ซึ่งชาวบ้านเป็นสมาชิกทั้งครอบครัวเฉลี่ย 3-4 ราย ฝากคนละ 30 บาท นอกจากนี้ยังมีเงินสมทบจากพัฒนาสังคมจังหวัดตามจำนวนสมาชิก เงินจากอบต.เปือยใหญ่ และสำนักงานกองทุนสราวเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ด้วย คาดว่ามีเงินจากการรวมกลุ่มหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาท โดยตามข้อตกลงสมาชิกได้รับผลประโยชน์ กรณีการเสียชีวิตรายละ 15,000 บาท ซึ่งเงินมาจากดอกเบี้ยของเงินกลุ่ม

“สำหรับกลุ่มสัจจะออมทรัพย์วันละ 1 บาทของที่ ต.เปือยน้อย ถือเป็นชุมชนนำร่องที่จังหวัดได้นำโครงการนี้เข้ามาให้ชาวบ้านได้รวมกลุ่มกันเพื่อออมเงิน โดยมี นายก อบต. ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นคณะกรรมการบริหาร ช่วงแรกสมาชิกที่เสียชีวิต ได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้จริง แต่ระยะหลังพบว่าชาวบ้านได้ซองเปล่า บางรายได้เงินเพียง 5,000 บาท จากที่ข้อตกลงระบุว่าได้รายละ 15,000 บาท โดยคณะกรรมการที่ไปร่วมงานอ้างว่า ได้ซองเปล่าก่อนจากนั้นก็ถ่ายภาพมอบซองเปล่ากับสมาชิก ส่วนเงินจะนำมามอบให้ภายหลัง แต่ก็หายไปไม่ติดต่อกลับมาอีก เมื่อสอบถามบอกว่าเก็บเงินสมาชิกรายอื่นๆไม่ได้ บัญชีไม่เรียบร้อย เมื่อสมาชิกขอตรวจสอบเงินในบัญชี แต่คณะกรรมการไม่เปิดเผย สมาชิกจึงตัดสินใจยื่นเรื่องร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอโนนศิลา" นายวีระศักดิ์ กล่าว

จากการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส เมื่อปี 2559 ชาวบ้านจึงรวมกลุ่มยื่นเรื่องร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอโนนศิลา ขอให้ตรวจสอบการบริหารงานของคณะกรรมการ แต่ผ่านมา 2 ปี ทากลับไม่มีความคืบหน้าการตรวจสอบ เมื่อชาวบ้านเข้าไปสอบถามและขอเอกสารสมุดเงินฝากคืน เจ้าหน้าที่กลับบ่ายเบี่ยง และให้ข้อมูลเพียงว่า ยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินงาน จึงตัดสินในเดินทางมาร่วมชุมนุม เพื่อฟังคำตอบที่ชัดเจนจากทางอำเภอ แต่หากทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จะเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด จนกว่าจะมีการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม