ชิงหน.ปชป. 'อภิสิทธิ์'เบอร์1 'วรงค์'ได้เบอร์2ลั่นชนะ

ชิงหน.ปชป. 'อภิสิทธิ์'เบอร์1 'วรงค์'ได้เบอร์2ลั่นชนะ

สมัครหยั่งเสียง "หัวหน้าปชป." คึกคัก "อภิสิทธิ์" ได้เบอร์ 1 "นพ.วรงค์" เบอร์2เชื่อชนะแน่ ด้าน "อลงกรณ์" เบอร์3ยันไม่หนุน "ประยุทธ์"

เมื่อเวลา 7.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการรับสมัคร ผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นไปอย่างคึกคัก ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุน นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในนาม “กลุ่มเพื่อนอลงกรณ์” ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายอลงกรณ์ รวมทั้งยังมีการจัดบูธบริเวณลานพระแม่ธรณี โดยนำเสนอนโยยบายใช้สูตร 4 5 6 คือ 4 ปฏิรูป คือปฏิรูปพรรคสี่ด้าน 5 กฏเหล็ก คือกฎหลักการเมืองสีขาว และ 6 ยุทธศาสตร์ คือยุทธศาสตร์สร้างศรัทธาประชาชน พร้อมคำขวัญประชาธิปัตย์ยุคใหม่ One Democrat One Family และข้อความระบุว่า "ผมจะเป็นหัวหน้าพรรคของทุกคนนำประชาธิปัตย์เป็นหลักของประชาธิปไตยและประเทศชาติด้วยแนวทางการเมืองสีขาวและกฎเหล็ก 5 ข้อ เราจะร่วมปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ยุคใหม่ที่ก้าวหน้าทันสมัยสุจริตยุติธรรมเพื่อชนะใจประชาชนเป็นพรรคอันดับ 1 ของประเทศ" รวมทั้งประวัติทางการเมือง และมีการถ่ายทอดสดผ่าน facebook ชื่อกลุ่มเพื่อนอลงกรณ์ด้วย

ด้านนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก และกลุ่มเพื่อนหมอวรงค์ นำโดยนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาถึงพระเวลา 8.00 น. เข้าสักการะพระแม่ธรณีบริเวณลานพระแม่ธรณี อาคารมูลนิธิควง อภัยวงศ์

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตส.ส.ที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ได้เดินทางตรงขึ้นไปยังชั้น 3 อาคารหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เพื่อรอการสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเวลา 8 นาฬิกา 30 นาที โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ คอยดูแลการรับสมัครครั้งนี้ โดยก่อนที่จะมีการจับสลาก นายอลงกรณ์ พลบุตรได้ขอให้นายอภิสิทธิ์ลงนามรับรองเสนอชื่อตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคด้วยเนื่องจากเอกสารรายชื่อผู้สนับสนุนมาไม่ทัน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ได้ลงนามรับรองให้ และได้แจ้งให้นายอลงกรณ์รับทราบว่ามีรายชื่ออดีตส.ส. 2 คนที่ลงชื่อสนับสนุนนายอลงกรณ์แต่ได้ลงชื่อสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ด้วย คือ นางสาวรังสิมา รอดรัศมี อดีตส.ส.สมุทรสงคราม และนางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม. จึงขอโอนให้กับนายอลงกรณ์ เช่นเดียวกับนพ.วรงค์ ที่โอนชื่อนายวิชัย ล้ำสุทธิ อดีต ส.ส.ระยองให้กับนายอลงกรณ์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอลงกรณ์ได้กล่าวขอบคุณนายอภิสิทธิ์ ที่เปิดโอกาสให้มีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรครวมถึงพน.วรงค์และนายอภิสิทธิ์ที่โอนชื่อ ส.ส. รับรองการเสนอชื่อหัวหน้าพรรคให้ พร้อมกับระบุว่าขอหมายเลข 3 โดยไม่ร่วมจับสลาก จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้ให้นายแพทย์วรงค์ เป็นผู้จัดสลากเป็นคนแรกได้หมายเลข 2 ทำให้นายอภิสิทธิ์ได้หมายเลข 1 ในการลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ โดยจะปิดรับสมัครในเวลา 16.30 นาที เบื้องต้นมีผู้สมัคร 3 คน

ทั้งนี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากหมดเวลาการสมัคร ผู้สมัครทั้งหมดจะได้หารือกันเพื่อส่งตัวแทนมาตั้งคณะทำงานดูแลการอย่างเสียงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคหรือ กกต. พรรค ทำหน้าที่ดูแลการหยั่งเสียง และรายงานผลการหยั่งเสียงหลังวันที่ 5 พ.ย. ให้กับคณะกรรมการบริหารพรรคครับทราบ สำหรับผู้มีสิทธิ์ในการหยั่งเสียงครั้งนี้มี 3 กลุ่มประกอบด้วย 1. สมาชิกปัจจุบันแปดหมื่นกว่าคน 2. สมาชิกใหม่ที่สมัครภายในวันที่ 15 ต.ค. และ 3 สมาชิกเดิม 2.5 ล้านคนก่อนที่จะมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 53/2560 ให้มายืนยันความเป็นสมาชิกพรรค ส่วนวิธีการลงคะแนนหยั่งเสียงมี 2 วิธีคือ 1 ลงคะแนนผ่าน Application1-5 พ.ย. และ 2 ลงคะแนนผ่านหน่วยเลือกตั้งที่พรรคจัดไว้ให้อย่างน้อย 1 หน่วยต่อ 1 จังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 5 พ.ย. ก่อนที่จะจัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใหม่จำนวน 41 คนในวันที่ 11 พ.ย. หลังจากนั้น นพ.วรงค์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากได้เบอร์ผู้สมัครหยั่งเสียงแล้วว่า ตนก็ไม่มีความกังวล หลังจากนี้จะเดินสายพบสมาชิกพรรคให้ครอบคลุมทั้งประเทศ และไปตามกลุ่มอาชีพต่างๆด้วย ให้เขารู้จักเราให้มากที่สุด ส่วนนโยบายของผู้สมัครคนอื่น ๆ จะเป็นปัญหาหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่เป็นไร เราอยู่พรรคเดียวกันได้รับกระบวนการหล่อหลอมแบบเดียวกันดังนั้นปัญหาแนวทางการแก้ปัญหามีบางอย่างที่คล้ายกัน บางอย่างไม่เหมือนกัน อยู่ที่ความกล้าในการตัดสินใจของผู้สมัคร ซึ่งเราพยายามสื่อสารว่าเราเป็นประชาธิปัตย์เหมือนกัน การต่อสู้ครั้งนี้ก็เพื่อพรรค แต่เป็นบรรยากาศแบบพี่น้องกัน อะไรที่ปรณีประณอมกันได้ก็ว่ากันไป ตนเจอนายอภิสิทธิ์ก็ถามว่าลงพื้นที่จ.สงขลา เป็นอย่างไรบ้าง ตนก็เล่าให้ฟังว่าลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เป็นอย่างไรบ้าง ก็ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า จะชนะการหยั่งเสียง นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนมีลางสังหรณ์ เพราะเมื่อวานตอนที่ตนลงพื้นที่ มีพระครูธรรมสโรช พระธาตุหนองบัว ท่านทักว่า มีโอกาสชนะการหยั่งเสียง พร้อมมอบเบี้ยแก้ โดยเป็นเครื่องรางมีพุทธคุณขจัดสิ่งชั่วร้ายไม่ดีให้พ้นจากตัวเรา และดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามา ตั้งแต่ได้มาคิดหวังอะไรก็ได้ตลอด รายชื่ออดีต ส.ส.ที่ติดขัดก็ได้เต็ม ซึ่งพระครูระบุให้ใส่ไว้จนกว่าวันที่ 5 พ.ย. ช่วงนี้ก็มีคนที่หวังดีดูดวงให้ตนเหมือนกัน ทุกคนก็ทักคล้ายๆกีว่า ตนมีโอกาสเป็นหัวหน้าพรรค แต่ส่วนตัวมองว่า ในเมื่อเราเริ่มต้น แล้วเป็นรองก็ต้องขยันให้มาก ซึ่งเราพิสูจน์แล้วว่าเราขยันกว่าคนอื่น “ผมคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่มีคนเก่ง และคนดีเยอะ แต่สิ่งที่เราขาดคือคนกล้า และที่ผ่านมามีการพูดคุยกันว่าเรากล้าหรือไม่ ซึ่งวันนี้ก็ชัดเจนแล้ว ประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง เราก็กล้ที่จะเปลี่ยน โดยความกล้าของพวกเราจะนำไปสู่นโยบายที่ดีในการพัฒนาประเทศ เราต้องการต่อคต้านการโกง ซึ่งเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ถ้าพวกเราได้เข้าไปทำงานการปูพื้นเพื่อพัฒนาประเทศจะมีความชัดเจน และจะบอกประชาชนเป็นระยะว่า เราเริ่มต้นในการนับหนึ่งใหม่ เป็นการพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ เพื่อให้ประชาชนคนไทยอีก 20 ปีข้างหน้า เคียงบ่าเคียงไหล่กับนานาชาติได้”นพ.วรงค์กล่าว

ขณะที่นายอลงกรณ์กล่าวว่า 5 ปีหลังจากนี้จะต้องเป็นช่วงฟื้นฟูพรรค สร้างทางเลือกใหม่ มีการปฏิรูปอย่างจริงจัง โดยตนจะรวบรวมพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นครอบครัวเดียวกัน การหาเสียงครั้งนี้ไม่ได้หวังแค่ชัยชนะอย่างเดียว แต่การเป็นหัวหน้าพรรคคือจุดเริ่มต้นชัยชนะของประเทศและประชาชนคนไทยทุกคน

เมื่อถามว่า ถ้าได้เป็นหัวหน้าพรรคจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกหรือไม่ นายอลงกรณ์ กล่าวยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องมาตาครรลองของประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรีจะมาจากคนนอกบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอ ไม่ว่าจะเป็นใครหรือพล.อ.ประยุทธ์ต้องอยู่ในบัญชี 3 รายชื่อที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง เพื่อให้เกิดความสง่างามและชอบธรรม