‘พิชัย’ ทวงถามนายกฯลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นช่วยปชช.

‘พิชัย’ ทวงถามนายกฯลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นช่วยปชช.

"พิชัย" ทวงถาม "ประยุทธ์" ลดราคาน้ำมันช่วยเหลือประชาชน ชี้ต้องแก้การผูกขาดพลังงาน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2561 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น และยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมาก จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำเรื่องที่ตนเคยเสนอไว้ไปพิจารณาช่วยเหลือประชาชนไม่ให้เดือดร้อนไปกว่าเดิม ซึ่งเรื่องที่ตนเสนอพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง เช่น เรื่องการลดราคาค่าการตลาด ซึ่งลดได้จริงแล้ว โดยบริษัทยอมลดลงจากอัตราเดิมที่เคยเก็บถึงลิตรละเกือบ 2 บาท ลงมาเหลือเพียงลิตรละ 1.26 บาทเท่านั้น จึงอยากให้พิจารณาลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นให้เท่ากับสิงคโปร์โดยไม่ต้องรวมค่าขนส่ง เพราะปัจจุบันโรงกลั่นมีกำไรจากค่าการกลั่นที่สูงอยู่แล้ว ขนาด บมจ. ไทยออยล์ ในเครือ ปตท.ยังจะขยายกำลังการกลั่นเพิ่มอีกวันละ 125,000 บาเรล เพื่อการส่งออก ซึ่งขายต่ำกว่าราคาในประเทศ ดังนั้นเหตุใดคนไทยจึงต้องจ่ายสูงกว่าราคาส่งออกซึ่งไม่มีเหตุผล นอกจากจะต้องการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทน้ำมันที่กำไรมหาศาลอยู่แล้วเท่านั้น และอยากขอให้ลดราคาเอทานอลให้เท่าราคาตลาดโลก เพราะราคาน้ำตาลและราคาโมลาสลดลงอย่างมาก แต่ราคาเอทานอลที่ใช้ผสมน้ำมันแก๊สโซฮอล์กลับมีราคาสูง

นายพิชัย กล่าวอีกว่า เชื่อว่าแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะพยายามหาว่าตนบิดเบือน แต่ลึกๆ พล.อ.ประยุทธ์ควรต้องเชื่อว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง หากราคาน้ำมันดิบยังเพิ่มสูงขึ้นไปอีก รัฐควรลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เพื่อช่วยค่าครองชีพของประชาชน การที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง ส่วนหนึ่งก็เพราะการปล่อยให้มีการผูกขาดพลังงานมาเป็นเวลานาน จึงต้องแก้ไขเรื่องการผูกขาดนี้ และนโยบายทักษิโณมิกส์เวอร์ชั่นใหม่ จะต้องแก้ไขการผูกขาดทั้งหมด รวมถึงการผูกขาดด้านพลังงานนี้ อีกทั้งต้องไม่ให้การผูกขาดน้ำมันลามไปยังการผูกขาดไฟฟ้าด้วย ทั้งนี้ อยากให้คณะกรรมการกิจการพลังงาน (กกพ.) ชุดใหม่ ได้พิจารณาส่งเรื่องการซื้อ บมจ. โกลว์ของบริษัทไฟฟ้าในเครือ ปตท.กลับไปให้บอร์ดใหญ่ของ บมจ.ปตท.พิจารณาใหม่ เพราะมีความผิดปกติในหลายเรื่อง เช่น มีความไม่โปร่งใสว่าจะเป็นการเซ็นทิ้งทวนของประธานบอร์ด ปตท.คนเก่าที่เพิ่งออกไปหรือไม่ เพราะอนุมัติการซื้อก่อนออกจากตำแหน่งเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น และซีอีโอ ปตท.คนเก่าก็อนุมัติตอนก่อนครบวาระเช่นกัน อดไม่ได้ที่ต้องคิดว่าเป็นการเซ็นทิ้งทวนหรือไม่ เพราะมักมีการตำหนินักการเมืองว่าชอบเซ็นทิ้งทวน ดังนั้นก็ไม่ควรให้ทำในลักษณะเดียวกัน