ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรฉุดดาวโจนส์ดิ่งเกือบ200จุด

ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรฉุดดาวโจนส์ดิ่งเกือบ200จุด

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (5ต.ค.)ตามเวลาท้องถิ่น ปรับตัวลง 180 จุด ขณะที่ถูกกดดันจากการทะยานขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 180.43 จุดหรือ 0.68% ปิดที่ 26,447.05 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ลบ 16.04 จุดหรือ 0.55% ปิดที่ 2,885.57 จุด และดัชนีแนสแด็ก ปรับตัวลง 91.06 จุด หรือ 1.16 % ปิดที่ 7,788.45 จุด

ทั้งนี้ดัชนีความผันผวนซีบีโออี ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นแตะระดับ 16.85 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้นในวันนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งเหนือระดับ 3.240% แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีทะลุระดับ 3.40%

เมื่อเวลา 00.37 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.242% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2554 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.413%

ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. โดยเพิ่มขึ้นเพียง 134,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 185,000 ตำแหน่ง  ซึ่งกระทรวงแรงงาน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่พายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ ซึ่งพัดถล่มรัฐนอร์ธและเซาธ์แคโรไลนาในเดือนก.ย. เป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการจ้างงานลดลงในบางภาคอุตสาหกรรม

ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%

ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% เช่นเดียวกันในเดือนส.ค. และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ