'บิ๊กโจ๊ก' มอบนโยบายตม. เน้นคัดครองต่างชาติ - โปร่งใส

'บิ๊กโจ๊ก' มอบนโยบายตม. เน้นคัดครองต่างชาติ - โปร่งใส

“บิ๊กโจ๊ก” มอบนโยบายตม. เน้นคัดครองต่างชาติ - โปร่งใส

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ต.ค.61 ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม เป็นประธาน ประชุมมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติราชการของ สตม. หลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โดยมีพล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญาวงศ์ พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รรท.รองผบช.สตม. พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม และข้าราชการตำรวจในสังกัดสตม.ซึ่งเป็นระดับ หน.ด่านสถานี กว่า 514 นาย เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพียง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พันธกิจหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีด้วยกัน 3 ข้อ 1.ตรวจสอบคัดกรองชาวต่างชาติ(คนต่างด้าว) ที่จะเข้ามาและอยู่ต่อในประเทศอย่างเข้มข้นและมีประสิทธิภาพมุ่งสู่การขจัดปัญหาทางสังคมและอาชญากรรมข้ามชาติ 2.ดำเนินงานเพื่อรองรับสังคมโลกาภิวัตน์เชื่อมโยงผู้คนและสังคมโลกแบบไร้รอยต่อ (seamless connectivity) และ3.มุ่งสู่ Immigration 4.0 โดยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตรวจสอบคัดกรองเพื่อการเข้าและขออยู่ต่อในประเทศไทยอย่างถูกต้อง และแม่นยำรวมถึงการให้บริการที่ทันสมัย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นพันธกิจภารกิจหลักที่ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองต้องเร่งดำเนินการ

นอกจากนี้ ได้ชูนโยบาย NO TIPS Model ซึ่งหมายถึง Nation of Immigration การเคลื่อนย้ายผู้คนอย่างเสรีภายใต้กฎหมายที่กำหนด ,Outstanding Unit เป็นองค์กรที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์และมีความโดดเด่น ,Trustfulness การปฏิบัติงานอย่างตรงไปตรงมาและเป็นที่น่าเชื่อถือ ,International การทำงานแบบมืออาชีพและมีความเป็นสากล ,People Centric การให้ความสำคัญกับประชาชนและผู้ให้บริการเป็นหลัก ,Standardization มาตรฐานการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกันทั่วประเทศ ให้สอดรับกับวิสัยทัศน์ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ เชื่อมต่อประชาชาติ ภายใต้ยุทธศาสตร์แห่งความมั่นคง Global Connectivity under Thailand National Security

รวมทั้งดำเนินการตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ที่ได้เน้นย้ำว่าต้องสร้างสมดุลระหว่างสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงของชาติ อีกทั้งต้องดำเนินตามนโยบายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณที่ให้ไว้ว่า ต้องรักษาความมั่นคงของรัฐและการต่างประเทศ ในส่วนภาพรวมทางด้านกำลังพล ขณะนี้ สตม.มีกำลังพล 4,000 กว่านาย ซึ่งไม่เพียงพอกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ ซึ่งในส่วนนี้จะไม่อ้างเรื่องความขาดแคลนกำลังพล เพื่อเอามาเป็นเงื่อนไขที่จะไม่ทำงาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะต้องยอมเหนื่อย ทำงานเต็มที่และมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามมีแนวคิดว่าในปีหน้าจะเพิ่มกำลังพล อีกกว่า 1,000 อัตราในระดับรองสารวัตร-ชั้นประทวน ให้มากขึ้น เพื่อสอดรับงานภารกิจเพื่อให้เพียงพอต่อการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งผู้นำหน่วย ผมจะไม่จับผิด มีแต่จับถูก สิ่งใดไม่ดีต้องแก้ไข สิ่งไหนที่ดีต้องชมเชย ไม่ต้องกังวลเรื่องการลงโทษ ขอให้ทำหน้าที่ให้ดีหน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีไม่กี่อย่าง ขอให้ทำตามขั้นตอน ยึดระเบียบเป็นหลัก การลงโทษไม่ใช่การแก้ไขปัญหา ผมคนเดียวทำงานไม่ได้ ต้องอาศัยนายตำรวจทุกระดับชั้น ปัจจุบันมีช่องทางร้องเรียนจำนวนมาก การรับรู้การตรวจสอบมีเยอะ เมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก็ต้องแก้ไขให้ดี

อย่างไรก็ตามเน้นย้ำหัวหน้าด่านหัวหน้าสถานี ต้องมีใจให้บริการ ปรับปรุงสถานี จุดบริการประชาชนนักท่องเที่ยวให้สวยงาม สะอาดตา งาน 5 ส.ต้องไม่ให้ขาด บริการเค้าเตอร์ โต๊ะสะอาด สถานีสะอาด สีไม่ตก หญ้าไม่รก ห้องน้ำสะอาดก่อน เพราะชาวบ้านมาใช้บริการ ในส่วนของห้องทำงานผู้กำกับ สารวัตร ไม่ต้องสวยงามมากเน้นอยู่ทำงานได้ เช่นเดียวกันการแต่งกาย กริยาวาจาของตำรวจตม.ต้องสุภาพเรียบร้อย โดยเฉพาะพื้นที่สนามบิน ต้องอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตรวจหนังสือเดินทางนั่งปฏิบัติงานให้เต็มทุกช่องตรวจในช่วงชั่วโมงเที่ยวบินลงสะสมหนาแน่น ไม่ปล่อยให้มีแถวยาว ทุกด่านต้องนั่งเคาเตอร์ครบทุกช่อง ต้องไม่โหว่ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวเสาร์-อาทิตย์ หัวหน้าสถานีต้องอยู่ประจำ กล้องวงจรปิดต้องใช้ได้เพื่อสนับสนุนการทำงานด้านงานสืบสวน อย่างไรก็ตามเรื่องตรวจสอบได้ไม่ยากว่าตำรวจทำงานหรือไม่ทำงาน เพราะประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งจากนี้ไปตนให้เวลาในการดำเนินการ ซึ่งจะไปตรวจหมดทุกแห่งนับจากนี้

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนของด่านตรวจคนเข้าเมืองตามแนวชายแดนต้องเพิ่มมาตรการเข้มงวดในเรื่องของการเสริมงานความมั่นคงในกรณีที่หากพบปรากฏข้อมูลบุคคลหรือคนร้ายตามหมายจับหลบหนีออกนอกด่านได้บริเวณตามแนวชายแดน ช่องทางธรรมชาติก็จะมีการพิจารณาบทลงโทษหัวหน้าสถานีด่านทั้งหมดที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งหากพบข้อร้องร้องเรียนว่ามีข้าราชการในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนอกแถว ก็จะต้องดำเนินการพิจารณาภาคฑัณฑ์ทางวินัย หัวหน้าด่าน หัวหน้าสถานี ข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกกรณีไป ซึ่งเรื่องนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เน้นย้ำเสมอว่าข้าราชการที่ดีต้องเป็นแบบอย่างที่ดี และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน