'สามารถ' ชี้สร้างเทอร์มินอล 2 แต่ที่จอดเครื่องบินมีเท่าเดิม

'สามารถ' ชี้สร้างเทอร์มินอล 2 แต่ที่จอดเครื่องบินมีเท่าเดิม

“สามารถ” ชี้สร้างเทอร์มินอล 2 แต่ที่จอดเครื่องบินมีเท่าเดิม ระบุไม่ช่วยรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ต.ค. นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์” ว่า ตนได้โพสต์บทความกรณีบริษัท ท่าอากาศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.จะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอร์มินอล 2) บนตำแหน่งที่ผิดแผนแม่บทมาแล้ว โดยตนจะชี้ให้เห็นว่า การที่ ทอท.จะก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเทอร์มินอล 1 ซึ่งผิดไปจากตำแหน่งในแผนแม่บทที่ได้ระบุให้ก่อสร้างทางด้านใต้ของเทอร์มินอล 1 หรือทางฝั่งถนนบางนา-ตราด แม้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากมายถึง 348,000 ตารางเมตรก็ตาม แต่การก่อสร้างเทอร์มินอล 2 นั้นไม่ได้ทำให้หลุมจอดเครื่องบินเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิก็จะไม่เพิ่มขึ้น

นายสามารถระบุต่อไปว่า การจะเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินได้นั้นจะต้องเพิ่มทั้งพื้นที่เทอร์มินอล และหลุมจอด ไม่เช่นนั้จะทำให้เกิดคอขวด รถเข้าออกสนามบินก็จะติด หรือจะมีผู้โดยสารในอาคารแออัด แต่ถ้าเกิดคอขวดที่แอร์ไซด์เครื่องบินเข้าออกหลุมจอดก็จะติด ซึ่งจะทำให้ขีดความสามารถของสนามบินไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิมีหลุมจอดเครื่องบินรวมทั้งหมด 124 หลุม โดย ทอท. ระบุว่าการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 จะมีหลุมจอดประชิดอาคารจำนวน 14 หลุม แต่หลุมจอดเหล่านี้เดิมใช้เป็นหลุมจอดเครื่องบินระยะไกล ด้วยเหตุนี้ จำนวนหลุมจอดจึงไม่เพิ่มขึ้น ยังคงมีเท่าเดิมคือ 124 หลุม ซึ่ง ทอท.ก็ได้ระบุไว้ในรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 เมื่อเดือน ก.พ.58 ถึงข้อเสียในการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 บนตำแหน่งดังกล่าวว่า ไม่ได้เพิ่มจำนวนหลุมจอดอากาศยาน เนื่องจากหลุมจอดหน้าอาคารหลังใหม่เดิมเป็นหลุมจอดอากาศยานระยะไกลแบบค้างคืน หมายความว่า ทอท.ได้ปรับเปลี่ยนการใช้หลุมจอดจากหลุมจอดระยะไกลจำนวน 14 หลุม เป็นหลุมจอดประชิดอาคารจำนวน 14 หลุม จึงทำให้จำนวนหลุมจอดมีเท่าเดิม

ดังนั้น ขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิในภาพรวมก็จะไม่เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ การก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ให้มีพื้นที่ใช้สอยถึง 348,000 ตร.ม. จะช่วยได้เพียงบรรเทาความแออัดของผู้โดยสารในเทอร์มินอล 1 เท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของสนามบินเพิ่มขึ้น

นายสามารถ ระต่ออีกว่า ในขณะนี้มีหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ขีดความสามารถของสนามบินเพิ่มขึ้น นั่นคือ ทอท.จะต้องใช้หลุมจอดของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ซึ่งมีจำนวน 28 หลุมช่วยด้วย ก็จะทำให้มีหลุมจอดเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 152 หลุม (124+28) ทั้งนี้ อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทและแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2554-2560) โดยแผนนี้ได้รวมการขยายเทอร์มินอล 1 ด้านตะวันออกซึ่งมีวงเงินลงทุน 4,825.5 ล้านบาทเอาไว้ด้วย

ทั้งนี้ ทอท. บอกว่าจะทำให้สนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านคนต่อปี ดังนั้น หากขยายเทอร์มินอล 1 ทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกก็จะทำให้ขีดความสามารถเพิ่มขึ้น 30 ล้านคนต่อปี ซึ่งตนเห็นว่าจะต้องใช้หลุมจอดของอาคารเทียบเครื่องบินรองช่วยด้วย แต่น่าเสียดายที่ ทอท.ยกเลิกการขยายเทอร์มินอล 1 ด้านตะวันออก ทั้งๆที่ ได้ออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว ทอท.อ้างว่าจะขยายด้านตะวันตกแทน ซึ่งทาง ทอท.ไม่เคยชี้แจงประเด็นนี้เลย ที่สำคัญ การยกเลิกการขยายเทอร์มินอล 1 ด้านตะวันออกนั้นถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2553 ซึ่งได้เห็นชอบให้ ทอท.ขยายเทอร์มินอล 1 ด้านตะวันออก

“เทอร์มินอล 2 จะมีหลุมจอดเครื่องบินประชิดอาคาร 14 หลุม ซึ่ง ทอท.คุยว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 30 ล้านคนปี แต่ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้แน่ หากไม่ใช้หลุมจอดของอาคารเทียบเครื่องบินรองช่วยด้วย อย่างไรก็ตาม การใช้หลุมจอดของอาคารเทียบเครื่องบินรองจะทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกสบาย เพราะจะต้องใช้บริการรถไฟฟ้าไร้คนขับ (Automated People Mover หรือเอพีเอ็ม) จากเทอร์มินอล 2 ไปสู่เทอร์มินอล 1 ซึ่งเป็นเอพีเอ็มลอยฟ้า ต่อจากนั้นจะต้องเปลี่ยนไปใช้เอพีเอ็มใต้ดินจากเทอร์มินอล 1 ไปสู่อาคารเทียบเครื่องบินรองเพื่อรอขึ้นเครื่องต่อไป” นายสามารถระบุ

นายสามารถระยุอีกว่า ในเมื่อเทอร์มินอล 2 ซึ่งมีวงเงินก่อสร้างถึง 42,084 ล้านบาท จะต้องใช้หลุมจอดของอาคารเทียบเครื่องบินรองช่วยด้วยเช่นเดียวกับการขยายเทอร์มินอล 1 ในขณะที่การขยายเทอร์มินอล 1 ออกไปทั้ง 2 ด้าน จะใช้เงินประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สนามบินมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น 30 ล้านคนต่อปี และเป็นไปตามแผนแม่บท อีกทั้ง ผู้โดยสารที่ใช้เทอร์มินอล 1 จะได้รับความสะดวกมากกว่าการใช้เทอร์มินอล 2 เพราะใช้เอพีเอ็มใต้ดินเพียงสายเดียวเพื่อไปสู่อาคารเทียบเครื่องบินรอง ดังนั้น ทอท.ควรเลือกที่จะขยายเทอร์มินอล 1 ไม่ควรดื้อดึงที่จะสร้างเทอร์มินอล 2 ที่ผิดแผนแม่บท หลังจากนั้นก็ควรสร้างเทอร์มินอล 2 ฝั่งถนนบางนา-ตราด ตามแผนแม่บทต่อไป

“โดยสรุป การขยายเทอร์มินอล 1 ทั้งทางด้านตะวันออกและด้านตะวันตกจะมีข้อได้เปรียบกว่าการก่อสร้างเทอร์มินอล 2 ที่ผิดแผนแม่บทดังนี้ 1. ใช้เวลาสั้นกว่า, 2. ใช้เงินน้อยกว่าถึงประมาณ 32,000 ล้านบาท, 3. ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากกว่า เพราะใช้เอพีเอ็มใต้ดินเพียงสายเดียวเพื่อไปสู่อาคารเทียบเครื่องบิน ด้วยเหตุนี้ ผมจึงใคร่ขอเรียนเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาดังนี้ 1. ให้ ทอท.ขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ด้านตะวันออกและด้านตะวันตกแทนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งผิดแผนแม่บท 2. ให้ ทอท.สร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ฝั่งถนนบางนา-ตราด ตามแผนแม่บท” นายสามารถระบุ