12 ต.ค.รู้เรื่อง! ใช้ม.44 ปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์

12 ต.ค.รู้เรื่อง! ใช้ม.44 ปลดล็อกกัญชาทางการแพทย์

“ประจิน” ขีดเส้นป.ป.ส.ส่งบทสรุปผลศึกษากัญชาทางการแพทย์ 12 ต.ค.นี้. ก่อนชี้ขาดจำเป็นเร่งด่วนต้องขอใช้ ม.44 ปลดล็อกหรือไม่

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.61 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าแนวทางการเสนอใช้ม.44 ปลดล็อกให้ใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อรักษาโรค ว่า ล่าสุดได้รับผลการศึกษาข้อเสนอยกร่างเฉพาะส่วนของการนำกัญชามาศึกษาวิจัยให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แล้ว ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีการเปรียบเทียบสถานการณ์ของยาเสพติดในประเทศ และต่างประเทศ. ผลการศึกษาพืชเสพติดอื่นๆที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ ผลการวิจัยหลังนำกัญชามาสกัดเป็นยา ซึ่งในต่างประเทศใช้ในการรักษาโรคอัลไซเมอร์ โรคลมชัก และพาคินสัน ว่ามีส่วนผสมหรือสูตรแตกต่างกันอย่างไร. และต้องใช้กัญชาสายพันธุ์ใดบ้าง ซึ่งเป็นการรวบรวมผลการวิจัยจาก4 ประเทศ รวมทั้งมีข้อมูลวิธีการควบคุมการปลูกการสกัดการลักลอบนำเข้าส่งออกและรายละเอียดส่วนผสมของยารักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ

พล.อ.อ.ประจิน กล่าวอีกว่า จากการอ่านรายละเอียดผลการศึกษาทั้งหมด ตนได้ให้ป.ป.ส.กลับไปทำข้อมูลเพิ่มเติมเป็นบทสรุปขั้นสุดท้าย โดยให้ชี้ชัดในประเด็นเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้กฎหมายพิเศษปลดล็อกกัญชา วิธีการควบคุมปลูกและสายพันธุ์ที่เหมาะสม สูตรยารักษาในแต่ละโรค เทคโนโลยีการสกัดสารเพื่อปรุงยา ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง การนำเข้า ส่งออก และครอบครองกัญชา เพื่อศึกษาวิจัยให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ และมาตรการควบคุมทั้งต้นทาง กลางทาง และปลายทาง รวมถึงการนำน้ำมันกัญชาไปใช้กับผู้ป่วยที่สมัครใจภายใต้การควบคุมตลอดระยะการรักษาโรค ซึ่งป.ป.ส.ต้องเขียนมาตรการให้รอบคอบและชัดเจนโดยกำหนดให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ หรือภายในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เพื่อนำมาพิจารณาถ้ามีเหตุผลสมควร ก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือมาตรา 44 พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า เมื่อได้รับผลการศึกษาทั้งหมดจากป.ป.ส. ก็จะต้องพิจารณาดูว่าข้อเสนอที่เกี่ยวข้องว่า จะขอยกเว้นมาตราการทางกฏหมายในข้อใดได้หรือไม่อย่างไร หากว่ามีช่องว่างหรือมีช่องทางให้ดำเนินการตามกฏหมายปกติได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษ แต่หากยังมีข้อจำกัดหรือประเด็นข้อห้ามทางกฏหมายอยู่ แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ก็อาจเสนอให้ใช้กฎหมายพิเศษได้ แต่ทั้งนี้ต้องหารือกับฝ่ายกฎหมายอีกครั้ง

สำหรับเหตุผลที่รมว.ยุติธรรม สั่งการให้ป.ป.ส. ศึกษาวิจัยข้อเสนอเฉพาะส่วนของการนำกัญชามาศึกษาวิจัยให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่บรรจุอยู่ในร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด เนื่องจากมีข้อกังวลถึงความล่าช้าของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอาจพิจารณาไม่ทันอายุของรัฐบาล