PTTGC - ซื้อ

PTTGC - ซื้อ

เดินหน้าต่อยอด Value chain

จากการเยี่ยมชมโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ polyols ของ Sanyo Chemical ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้เรามองเห็นแนวโน้มการสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวของ PTTGC จากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีซึ่งมีอัตรากำไรสูง และโอกาสในอนาคตที่จะใช้ประโยชน์จากความรู้ด้านเทคโนโลยีจากพันธมิตรทางธุรกิจ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลาสักระยะ สำหรับโครงการเหล่านี้ที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์อย่างมีนัยยะ แต่เราเชื่อว่ามูลค่าหุ้นของ PTTGC จะปรับเพิ่มขึ้นไปทัดเทียมกับบริษัทนวัตกรรมปิโตรเคมีรายอื่นๆ ได้ในที่สุด

Polyols – ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

บริษัท GC Polyols จำกัด ก่อตั้งเมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ในฐานะบริษัทร่วมทุนระหว่างระหว่าง PTTGC (82.1%) บริษัท Sanyo Chemical Industries (SCI) (14.9%) และ บริษัท Toyota Tsusho Corporation (TTC) (3%) เพื่อผลิต polyols โรงงานจะมีกำลังการผลิต polyether polyols 1.3 แสนตันต่อปี polyols เป็นผลิตภัณฑ์ขั้น กลา งที่ใช้ทำ polyurethane ประสิทธิภาพสูงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง การก่อสร้างโรงงานเริ่มขึ้นใน
เดือน ก.ย. 2560 และโรงงานมีกำหนดการที่จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในเดือน ส.ค. 2563

ภายใต้สัญญาร่วมทุน PTTGC จะจัดหาวัตถุดิบหลัก ได้แก่ propylene oxide (PO) และ ethylene oxide (EO) โดย SCI จะจัดหาเทคโนโลยีขั้นสูงและความรู้ทางเทคนิคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ polyols ให้ได้ตามความต้องการของลูกค้า ในขณะที่ TTC จะสนับสนุนการขายผ่านทางเครือข่ายการตลาดระดับโลก ซึ่งตลาดเป้าหมายของ GC Polyols คือ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศอินเดีย

เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวให้กับ PTTGC

การลงทุนครั้งนี้เหมาะสมกับหนึ่งในกลยุทธ์ของ PTTGC ที่จะขยายธุรกิจปิโตรเคมีที่มีมูลค่าสูง โครงการ polyols นี้จะช่วยเพิ่มทั้งกำลังการผลิตปิโตรเคมีรวม (ประมาณ 1% คิดเป็น 10.3 ล้านตันต่อปี) และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง โดยเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงเหล่านี้จะให้ EBITDA margin (15% ขึ้นไป) สูงกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ (โดยปกติ EBITDA margin อยู่ระหว่าง 10-13 %) เราประมาณการเบื้องต้นว่าโครงการนี้จะสร้างกำไรส่วนเพิ่มประมาณ 1.5 พันล้านบาทต่อ
ปี (เพิ่มขึ้น 3% จากประมาณการปัจจุบันของเรา) ในระยะยาวและเพิ่มราคาเป้าหมายจากการประเมินมูลค่า DCF ประมาณ 3 บาทต่อหุ้น

การร่วมทุน-จุดเริ่มต้นของโอกาสที่ยิ่งใหญ่

แม้ว่ากำไรจากโครงการ polyols อาจจะดูไม่มากนัก แต่เราเห็นโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ของ PTTGC ในธุรกิจปิโตรเคมีที่มีมูลค่าสูงอีกมากในอนาคตโดยการใช้ความรู้ด้านเทคนิคจากพันธมิตรทางธุรกิจ อาทิ SCI, Asahi Kasei Corporation, Kuraray Co Ltd., Sumitomo Corporation และ Mitsui Chemical Inc. แนวโน้มกำไรจากธุรกิจวัสดุและปิโตรเคมีมูลค่าสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะยาว (จากสัดส่วน 12% ของ adjusted EBITDA ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561) ความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นน่าจะช่วย
ให้มูลค่าหุ้นของ PTTGC สูงขึ้น (ปัจจุบันซื้อขายอยู่ที่ PER ปี 2561 ที่ 8.9 เท่า) ไปสอดคล้องกับบริษัทนวัตกรรมปิโตรเคมีในภูมิภาค (ซื้อขายกันปี 2561 PER ที่ 13-15 เท่า)